ดีเอสไอ บุกค้น 3 สถานพยาบาล จับขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยรับจ้าง อุ้มบุญ ก่อนส่งเด็กออกนอกประเทศ พบเอกสารข้อมูลสำคัญเพียบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 1 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พร้อมด้วย น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และ น.ส.กนกลดา เจริญศิริ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ

ดีเอสไอ บุกค้น 3 สถานพยาบาล จับขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยรับจ้าง อุ้มบุญ ก่อนส่งเด็กออกนอกประเทศ

ดีเอสไอ บุกค้น 3 สถานพยาบาล จับขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยรับจ้าง อุ้มบุญ ก่อนส่งเด็กออกนอกประเทศ

นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 236/2565 สนธิกำลังร่วมกับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติการตรวจค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง ตามหมายค้นศาลอาญาที่ 995-997/2566 ลงวันที่ 22 ส.ค.2566 ดังนี้

จุดที่ 1 สถานพยาบาลย่านถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีนายแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ และเป็นแพทย์ประจำศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในสถานพยาบาลดังกล่าว โดยได้ทำการตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์และรับฝากครรภ์ และเป็นสถานที่คลอดบุตรแก่หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมาย ในช่วงระหว่างปี 2561-2563 ผลการตรวจค้นพบประวัติ หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมายจำนวนหลายราย

จุดที่ 2 สถานพยาบาลย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า สถานพยาบาลแห่งนี้มีแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เข้าไปทำงานพาร์ทไทม์ในสถานพยาบาลดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบเอกสารข้อมูลไข่และตัวอ่อนในการดูแลของแพทย์ผู้ให้บริการในคดี

จุดที่ 3 สถานพยาบาลย่านถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความเชื่อมโยงกับนายแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดี และมีหญิงอุ้มบุญมาตรวจร่างกายก่อนมีการไปฉีดตัวอ่อนที่ต่างประเทศ ผลการตรวจค้นพบหนังสือเดินทางของหญิงอุ้มบุญและเด็กที่ถูกอุ้มบุญและยังไม่ได้รับอนุญาตรับรองมาตรฐานให้บริการด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์

ต่อมา ร.ต.อ.ปิยะ มอบหมายให้ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดหนองคาย (นปพ.ภ.จว.หนองคาย) จับกุม นายสุเนตร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2643/2566 ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า

และได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของนายสุเนตร ในพื้นที่ จ.หนองคาย โดยอาศัยอำนาจตามหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย ที่ ค.106/2566 พบบัญชีรายชื่อหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญผิดกฎหมายและบัญชีรายได้จากการเป็นนายหน้าจัดหาหญิงมาทำหน้าที่อุ้มบุญ ซึ่งนายสุเนตรเป็นหนึ่งในขบวนการจ้างอุ้มบุญข้ามชาติที่มีหน้าที่จัดหาหญิงชาวไทยมารับจ้างอุ้มบุญให้ชาวต่างชาติ จนมีทรัพย์สินเป็นที่ดินกว่า 100 ไร่

ทั้งนี้ การอุ้มบุญสามารถทำได้หากได้รับการอนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีเงื่อนไขเพื่อคนที่มีบุตรยากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 แต่ห้ามไม่ให้ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า หากฝ่าฝืน ทั้งตัวคนสั่งจ้าง นายหน้า นายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ หญิงอุ้มบุญและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ย่อมมีความผิดทางอาญาและต้องรับผิดตามกฎหมาย

ปัญหาการอุ้มบุญผิดกฎหมายก่อให้เกิดปัญหาสังคมหลายอย่างตามมา ทั้งการเป็นตลาดการค้ามนุษย์ ซึ่งปลายทางของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ อาจถูกนำไปค้าอวัยวะ ค้าประเวณี หรืออุตสาหกรรมทางเพศ ในหลายกรณีที่เด็กเกิดมามีความบกพร่องทางร่างกาย ก็จะถูกทอดทิ้ง อย่างไร้มนุษยธรรม

ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นกระทำการตามกรอบอำนาจหน้าที่เพื่อต่อต้านขบวนการอุ้มบุญที่ผิดกฎหมายและดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน