หลักฐานมัด ‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย ‘กำนันนก’ สั่งทำลายกล้องวงจรปิด-คราบเลือด จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มร่วมกันฆ่า วันนี้จะแจ้งข้อหาเป็นผู้ใช้จ้างวาน

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในสัมภาษณ์ตอนหนึ่งในรายการ คุยนอกจอ ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งกองปราบและตำรวจพื้นที่ ติดตามสืบสวนติดตามผู้ต้องหามาตลอด จนพบว่าผู้ต้องหา หลบหนีเข้า จ.กาญจนบุรี ซึ่งตัวผู้ต้องหาใช้ปืนกล็อกที่ยิงสารวัตรแบงค์ มาต่อสู้กับตำรวจจากการปะทะกันจึงเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต

นายสรยุทธ ถามว่า ยิงต่อสู้กันอย่างไร ถึงขนาดต้องวิสามัญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมองว่าคนร้ายยังไงก็ไม่ขอมอบตัวอยู่แล้ว เพราะถ้าต้องการมอบตัว ต้องมอบตัวตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.แล้ว ขนาดกำนันนกที่เป็นลูกพี่ยังมามอบตัว ทำให้ทราบว่าเจ้าตัวคิดต่อสู้แน่นอน เพราะถ้าโดนคดียังไงก็ได้รับโทษหนัก ดังนั้นถ้าเจอเมื่อไหร่ ตำรวจก็ต้องระวังตัว

ส่วนได้สอบกำนันนก ด้วยตนเองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้คุย เพราะทราบอยู่แล้วว่า ยังไงก็ให้การปฏิเสธ แต่เราก็ไม่ให้ประกันตัว ส่วนพยานหลักฐาน วันนี้จะแจ้งข้อหากำนันนก เป็นผู้ใช้จ้างวาน”

“เมื่อวานสั่งให้สอบประเด็นหลักๆเพิ่มเติม เพื่อจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฆ่า เพราะในที่เกิดเหตุ เอาแม่บ้านมาสอบ จากที่แม่บ้านให้การทราบว่ากำนันนก เป็นคนสั่งทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งกล้องวงจรปิด คราบเลือด และกระสุน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

นายสรยุทธ ถามว่า มีพยานให้การบ้างหรือไม่ว่า กำนันนกสั่งให้ไปยิง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ต้องไปสอบเพิ่มเติม ถ้าสอบประเด็นครบถ้วนและเป็นความจริง ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเรื่องร่วมกันฆ่า

“ทั้งนี้เป็นการตั้งข้อกล่าวหา ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ตามหลักกฎหมายไทยยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ดี เพราะเขาอยู่ในท้องถิ่น สนิทกับข้าราชการหลายส่วน วันนี้ถึงโอนสำนวนมากองปราบ ขึ้นอยู่กับศาลอาญารัชดา จะไม่ต้องไปวิ่งเต้นใครได้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

นายสรยุทธ ถามว่า ตกใจหรือไม่ที่ตำรวจไปร่วมงานตั้ง 21 คน และยิงต่อหน้าตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตกใจ เมื่อวานตนตำหนิทั้งผู้การฯ และผู้กำกับว่าต้องไปทบทวนตัวเองว่า อยู่ยังไงถึงปล่อยปละละเลยได้ถึงขนาดนี้ อยู่อย่างไรถึงเหิมเกริมได้ขนาดนี้ อันนี้ไม่ใช่บทเรียน แต่เป็นความบกพร่อง

ส่วนตำรวจทั้ง 21 นายก็สั่งให้สอบรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเส้นทางการเงิน การไม่รักษาพื้นที่ ไม่รักษาของกลาง ถ้าเข้าข่ายฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ต้องดำเนินคดีอาญาทั้งหมด ซึ่งเรียนให้ ผบ.ตร.ทราบเรื่องแล้ว เพราะคนที่อยู่ในงานมีทั้งผู้กำกับ 3 คน ยังมีผู้กำกับสืบสวนจังหวัด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ แต่ยังปล่อยให้มีการทำลายพยานหลักฐาน

นายสรยุทธ ถามว่า ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพล หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเป็นผู้มีอิทธิพลแบบนี้มาจากผู้กำกับในพื้นที่หย่อนยาน ถ้าผู้กำกับในพื้นที่เข้มแข็งเรื่องแบบนี้มันไม่เกิด เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะมีแล้ว

นายสรยุทธ ถามว่า มีการถามหรือไม่ว่าไปกินกับเขาบ่อยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ถามนอกรอบครับ ทราบว่าไปกินกันทุกเดือน เนื่องจากกำนันนก รู้จักตำรวจทางหลวงเยอะ เพราะทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เขาจึงเรียกตำรวจไปกิน ซึ่งการเรียกไปกินนั้นเพื่อเสริมสร้างบารมีตัวเอง กินจนกระทั่งหมดความเกรงใจ เหตุการณ์จึงออกมาแบบนี้

นายสรยุทธ ถามว่า ปมสาเหตุคือการสลับตำแหน่งระดับจ่า เท่านั้นหรือ เพราะมันแปลกมาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ปมเริ่มจากเรื่องนี้ แต่ยังมีประเด็นอื่นอีกนิดหน่อยที่เชื่อมโยงและยังมีเรื่องการเมาสุรา ส่วนประเด็นนั้นตนขอไม่พูด เพราะจะกระทบการสอบสวน

นายสรยุทธ ถามว่า มีประเด็นคุยเรื่องส่วยแล้วไม่สำเร็จ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องส่วยตนยังไม่มีข้อมูล วันนี้คดีแยกเป็น 3 ส่วน คือ คดีหลักกองปราบรับไปทำ คดีวิสามัญ ตำรวจภูธรท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ และที่ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 สภ.เมืองนครปฐม เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ทำงานรวดเร็วขึ้น

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน