ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุก 20 ปี ผู้กองบอย อดีตรอง สารวัตร สส.วังทองหลาง ยิงน้องนิ่มอดีตภรรยาดับ ไร้เงาผู้กองบอย ศาลสั่งออกหมายจับมารับโทษ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 ต.ค.66 ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งที่ 2 คดีฆ่าผู้อื่นฯ หมายเลขดำ อ.2353 /2563 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย อายุ 32 ปี อดีตรอง สว.สส.สน.วังทองหลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่าเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 เวลากลางคืน จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน กท. 54289016 ของจำเลย จ่อกดที่ศีรษะน.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มใสย์ หรือน้องนิ่ม อายุ 30 ปี ภรรยา ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพื่อข่มขู่โดยจำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าหากกระสุนปืนลั่นออกมาจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เป็นเหตุให้มือของผู้ตายไปถูกอาวุธปืนดังกล่าวและทำให้อาวุธปืนลั่นออกมา 1 นัดกระสุนปืนถูกที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร จนถึงแก่ความตาย

เหตุเกิดภายในทาวน์เฮาส์ 2ชั้น หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ จึงขอให้ลงโทษจำเลยความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี








Advertisement

คดีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.65 ศาลอาญาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่ายที่นำสืบแล้ว พิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 20 ปี และชดใช้ค่าเสียหาย 720,000 บาท ริบอาวุธปืนของกลาง

โดยศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยเป็นเงินสดโดยตีราคาประกัน1 ล้านบาท ระหว่างอุทธรณ์คดี ขณะที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้อง

ต่อมาวันที่ 7 ก.ย.66 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม นายประกันจำเลย แจ้งต่อศาลว่า ไม่สามารถติดต่อจำเลยได้

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยได้รับหมายเรียกโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง หรือร้องขอเลื่อนคดี พฤติการณ์เชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลย เพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนนายประกันทราบนัดโดยชอบแล้วไม่ส่งตัวจำเลยตามกำหนด ถือว่าผิดสัญญาประกัน ให้ปรับนายประกันเต็มตามสัญญา 1 ล้านบาทและนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้งวันที่ 10 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา ร.ต.อ. ทรงกลด ยังคงไม่มาศาลตามนัด ศาลอาญาจึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ลับหลังจำเลยตามกฎหมาย

ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ตามศาลชั้นต้น จำคุก 20 ปี และชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 720,000 บาทแก่มารดาผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดี และให้ออกหมายจับจำเลย เพื่อมารับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน