ร้อง กองปราบ เร่งจับ “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาวคนดัง ตุ๋นลงทุน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท เผย ใช้ชีวิตหรูหราแม้มีหมายจับ ระบุ ผู้เสียหายเพียบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ย.2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.กัญญ์วราพัชร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เข้าพบ ร.ต.อ.ธนากร แก่นอินทร์ รองสารวัตร(สอบสวน) กก.1.บก.ป. เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุม “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาวชื่อดังรายหนึ่ง หลังหลอกให้ร่วมลงทุนเปิดร้านทำเล็บ แชร์ออมเงินออนไลน์ อ้างผลตอบแทนสูง แต่กลับไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พบมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 40 ราย สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท

ร้อง กองปราบ เร่งจับ "ใบเฟิร์น" เน็ตไอดอลสาวคนดัง ตุ๋นลงทุน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท เผย ใช้ชีวิตหรูหราแม้มีหมายจับ

ร้อง กองปราบ เร่งจับ “ใบเฟิร์น” เน็ตไอดอลสาวคนดัง ตุ๋นลงทุน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท เผย ใช้ชีวิตหรูหราแม้มีหมายจับ

น.ส.กัญญ์วราพัชร กล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตนพบใบเฟิร์นโพสต์ข้อความตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ชักชวนลงทุนธุรกิจร้านทำเล็บ อ้างผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 4 ของเงินลงทุน ตนเห็นว่าเจ้าตัวเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังเคยออกรายการร้องเพลง โพสต์รูปคู่ดารา ใช้รถหรู ดูน่าเชื่อถือ จึงหลงเชื่อร่วมลงทุนไปด้วย 2 แสนบาท

น.ส.กัญญ์วราพัชร กล่าวต่อว่า แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามขอเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างติดปัญหาต่าง ๆ ก่อนจะตัดขาดการติดต่อไปในที่สุด ตนมารู้ภายหลังว่าธุรกิจดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงเข้าแจ้งความตำรวจที่ จ.เชียงใหม่ จนมีการออกหมายจับไปแล้ว

น.ส.กัญญ์วราพัชร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทราบว่ามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลักษณะเดียวกันกว่า 40 ราย สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท วันนี้จึงอยากให้ทางกองปราบช่วยติดตามจับกุมตัวเพราะปัจจุบันเจ้าตัวยังคงใช้ชีวิตหรูหรา บินไปกลับเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตามปกติเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่มีหมายจับติดตัว

ด้าน นางฐิติรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนได้รับการชักชวนจาก ใบเฟิร์นให้นำเงินมาร่วมเล่นแชร์ออมเงิน ระยะสั้น 20 วัน ให้ผลตอบแทนสูงร้อยละ 8 เพราะเห็นว่าเป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง ประกอบกับมีการกล่าวอ้างถึงธุรกิจร้านทำเล็บ ทำผม ดูน่าเชื่อถือ จึงร่วมลงทุนไปด้วย 80,000 บาท แต่พอถึงกำหนดกลับไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง ก่อนจะตัดขาดการติดต่อหนีหายไปในที่สุด ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็รู้อยู่แล้วว่าตนกำลังตั้งครรภ์ต้องการใช้เงินในอนาคต

ขณะที่ นายรณณรงค์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมของใบเฟิร์นจะเห็นว่าใช้ความเป็นเน็ตไอดอล มีชื่อเสียง สร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อชักชวนเหยื่อให้นำเงินมาร่วมลงทุน ทั้งธุรกิจร้านทำเล็บ หรือออมเงิน อ้างผลตอบแทนสูงเป็นแรงจูงใจ ถือเป็นภัยต่อสังคม ประกอบกับทราบว่าปัจจุบันเจ้าตัวมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน และ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ติดตัวอยู่ จึงอยากให้ทางตำรวจสอบสวนกลาง ช่วยติดตามจับกุมและป้องกันไม่ให้มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา ก่อนส่งเรื่องให่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน