นักธุรกิจสาว ร้อง สายไหมต้องรอด นักร้องลูกทุ่งดัง โกงแชร์ ผู้เสียหายเพียบ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท แฉพฤติกรรม โดนตำรวจเรียกรับทราบข้อกล่าวหา 2 ครั้ง
วันที่ 4 พ.ย.2566 ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้าของร้านอาหารย่านวัชรพล พร้อมตัวแทนผู้เสียหายอีก 3 ราย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง โกงแชร์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนได้รู้จักกับแม่ของนักร้องหนุ่มคนดังกล่าว แล้วชักชวนเล่นแชร์กับลูกชาย โดยบอกว่าดอกเบี้ยดี จ่ายตรงเวลา ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่ปักใจเล่น แต่เนื่องด้วยว่ามีผู้เล่นที่ตนรู้จักบอกว่านักร้องคนดังกล่าวเป็นคนดีและมีฐานะมั่นคง อีกทั้งยังเป็นนักร้องดัง จึงตัดสินใจร่วมเล่นด้วยลงไป จำนวน 1 มือ ซึ่งเป็นมือเล็ก ๆ ปรากฏว่าตลอดการเล่น 2 ปี ได้เงินครบและตรงเวลาตลอด
น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งกลางปีที่แล้ว ตัดสินใจลงมือใหญ่ ทุนในการเล่นจำนวน 3 มือ ซึ่งหวังมือสุดท้าย เพื่อนำเงินดังกล่าวมาโปะบ้าน แต่ปรากฏว่า เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งมีผู้ที่เล่นแชร์ในกลุ่มดังกล่าวว่ายังไม่ได้เงิน และได้เงินไม่ครบ จึงโทรศัพท์หาภรรยาของนักร้องคนดังกล่าวว่า หากส่งครบสัญญาจะได้เงินครบหรือไม่ จึงได้รับการยืนยันว่าได้ครบแน่นอน ตนจึงตัดสินใจส่งต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่งครบสัญญา
น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวอีกว่า ซึ่งมือดังกล่าวจะต้องได้เงินประมาณ 3 แสนบาท แต่กลับไม่ได้เงิน พอไปทวงถามเจ้ามือก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนผ่านไป 1 ปี ยังไม่ได้เงิน เช่นเดียวกันสมาชิกวงแชร์ทั้ง 13 คน รวมความเสียหายใน 3 วงแชร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งที่ จ.มหาสารคาม ตำรวจที่นั่นแนะนำให้กลับมาแจ้งความ ตนจึงเข้ามาแจ้งความที่ สน.คันนายาว
น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวว่า ปรากฏว่าตำรวจได้เรียกนักร้องคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ยอมรับชดใช้ค่าเสียหายให้ จึงเกิดการโต้เถียงขึ้น นอกจากนี้ นักร้องหนุ่มคนดังกล่าวและภรรยา ยังเข้าไปในกลุ่มแชร์และเกลี้ยกล่อมลูกแชร์คนอื่น ๆ ว่าห้ามนำข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ มาให้กับตน ถ้ายังติดต่อสื่อสารก็จะไม่คืนเงินให้แม้สลึงเดียว ทำให้ลูกแชร์หลายคนไม่กล้ามอบหลักฐานให้ตนในการดำเนินคดีกับนักร้องคนดังกล่าว โดยอ้างว่าจะจ่ายเงินคืนให้วันที่ 25 พ.ย.นี้ จากการขายที่ดินในพื้นที่โคราชนำเงินมาใช้หนี้ให้กับลูกแชร์
น.ส.น้ำทิพย์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ มาร้องสายไหมต้องรอดในวันนี้ เพราะต้องการให้ประกาศเตือนประชาชน รวมถึงลูกแชร์ทั้งหมดให้แจ้งความดำเนินคดีกับนักร้องคนดังกล่าว เพราะรู้แล้วว่าไม่มีความเป็นไปได้ในการจ่ายเงินคืนลูกแชร์ทั้งหมดได้ เพราะความเสียหายน่าจะเกือบ 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พบว่ายังมีผู้เสียหายมากกว่า 13 คน มีอีก 7 คน ยังหาตัวตนไม่ได้ สำหรับนักร้องคนดังกล่าวยังมีการระดมทุนบ้านออมทองและบ้านแชร์ ภายใต้ชื่อ น้ำผึ้งออมทองด้วย
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า วิธีการโกงแชร์ของเท้าแชร์ส่วนใหญ่ จะระดมคนมาเล่นแชร์ โดยใช้แชร์มือผีเป็นตัวหลอกล่อเหยื่อให้ร่วมลงทุน อย่างกรณีมีวงแชร์ 20 มือ จะมีมือผี 10 มือ ส่วนที่เหลือเป็นเหยื่อ ซึ่งเหยื่อที่เข้ามาเล่นมักต้องการมือท้าย ๆ เพื่อหวังดอกเบี้ย ดังนั้น ใน 10 มือแรกจะเป็นมือผีทั้งหมด ซึ่งเมื่อเริ่มเปียมือที่ 11-12 ก็จะเริ่มไม่ได้เงิน เพราะ 10 มือก่อนหน้านี้เป็นแชร์ผี ไร้ตัวตน
นายเอกภพ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็จะปิดบ้านหลบหนี บางรายก็ถูกลูกแชร์ชักดาบเพื่อไม่จ่ายเงิน และคิดว่าลูกแชร์ส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความ หากแจ้งความก็จะประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ จึงขอเตือนและประชาสัมพันธ์ไปยังลูกแชร์ออมทองให้เข้าแจ้งความ เพราะเชื่อว่าตั้งแต่ที่ทำงานมาตลอด 3 ปี ยังไม่เคยพบว่าลูกแชร์คนใดได้เงินจากเท้าแชร์เลย