ตำรวจไซเบอร์ บุกจับ หนุ่มหัวร้อน โพสต์ด่า-ขู่ฆ่า นายกรัฐมนตรี เปิดคำรับสารภาพ อ้าง อารมณ์ชั่ววูบผิดหวังการเมืองไทย โดนทัวร์ลงยับ “ขุดประวัติ-ตามล่า”

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 7 พ.ย.2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีที่ ค.32/66 ลงวันที่ 6 พ.ย.66 เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐานกรณีมีผู้ใช้แพลทฟอร์มเอ๊กซ์ หรือ ทวิตเตอร์ รายหนึ่ง โพสต์ข้อความในลักษณะดูหมิ่นให้ร้ายคุกคามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ตำรวจไซเบอร์ บุกจับ หนุ่มหัวร้อน โพสต์ด่า-ขู่ฆ่า นายกรัฐมนตรี เปิดคำรับสารภาพ

ตำรวจไซเบอร์ บุกจับ หนุ่มหัวร้อน โพสต์ด่า-ขู่ฆ่า นายกรัฐมนตรี เปิดคำรับสารภาพ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) สายด่วน 1441 ของตำรวจสอท. ได้ตรวจสอบพบผู้ใช้แพลทฟอร์มเอ๊กซ์รายหนึ่ง โพสต์ข้อความลักษณะดูหมิ่นให้ร้ายคุกคาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ด้วยข้อความที่ว่า “ฆ่าไอเ_ี้ยโย่งนี้ได้ประเทศไทยมันจะดีขึ้นมากว่านี้, ใครฆ่าเ_ี้ยนี้ได้กูจะรวมเงินจ่ายให้เลยกูเป็น 10 น้าจ้า” ซึ่งมีภาพนายเศษฐาอยู่ใต้ข้อความนั้น

จากการตรวจสอบพบข้อความดังกล่าว ถูกโพสต์โดย นายกฤษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นศาลแขวงธนบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว และหมายเรียก เมื่อไปถึงก็พบนายกฤษฎาอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายเพื่อขอตรวจสอบ โดยนายกฤษฎาให้ความยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ

นายกฤษฎา กล่าวยอมรับว่า ขอโทษที่กล่าวล่วงเกิน ส่วนเรื่องของกฎหมายถ้าเกิดมีการแจ้งความเป็นผู้เสียหายก็ยินดีไปสถานีตำรวจเพื่อทำการรับทราบข้อกล่าวหา กับสิ่งที่ตนทำเพราะคำพูดเป็นนายตัวเอง ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการโพสต์ทั้ง 2 ข้อความนั้นมาจากการที่ดูและติดตามข่าว และผิดหวังกับพรรคการเมืองที่ตนเชียร์ รู้สึกผิดหวัง เพราะว่าหลังเลือกตั้งกับก่อนเลือกตั้งมันหนังคนละม้วน

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า บวกกับเวลาโพสต์ได้ดูข่าวสารแล้วรู้สึกว่าการที่ออกมาพูดมันไม่เหมือนสิ่งที่สัญญาไว้ในทุก ๆ เรื่อง บวกกับการกระทำต่าง ๆ ของพรรค ตนเลยรู้สึกโมโห ทุกครั้งกับการกระทำ ซึ่งภายหลังที่โพสต์ไปตนก็ถูกขุดภาพประวัติส่วนตัว ถูกข่มขู่กลับด้วย และได้ออกมาโพสต์ขอโทษยุติทุกอย่าง








Advertisement

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขอโทษในสิ่งที่ตนโพสต์ด่า และแสดงเจตนาที่ไม่เหมาะสมออกไป ด้วยอารมณ์และความไม่ยั้งคิดยั้งทำให้ตนขาดสติ จนทำให้เกิดความไม่พอใจ จะปรับปรุงการกระทำ คิดให้เยอะขึ้น และจะขอยุติเป็นแค่ผู้อ่านข่าวอย่างเดียวโดยไม่แสดงความคิดเห็นอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.392 “ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน