ทัพบก เปิดแผนช่วย 41 คนไทยชุดแรก ออกจากเล้าก์ก่าย เมียนมา ถึงไทยเร็วสุด 16 พ.ย.นี้ ช้าสุด 17 พ.ย. เร่งประสานช่วยที่ตกค้างอีก 246 คน
วันที่ 15 พ.ย. 2566 กองทัพบก รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกล่อลวงไปทำงานในเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ถึงกระทรวงกลาโหม โดยเป็นแผนการรับตัวคนไทยชุดแรก จำนวน 41 คน จาก จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กลับประเทศไทย
โดยแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังว้า กองทัพบก ได้ใช้กลไกความร่วมมือด้านการทหาร ผ่านคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา (Township Border Committee : TBC) ประสานขอให้กองกำลังกลุ่มว้าเคลื่อนย้ายคนไทย จำนวน 41 คน จากเมืองหนานเติ้ง มาส่งมอบให้กับทหารเมียนมา ในพื้นที่ จ.เชียงตุง รัฐฉาน
จากนั้นภาคทหารบกสามเหลี่ยมจะเคลื่อนย้ายคนไทยจาก จ.เชียงตุง มาส่งมอบให้กับกองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยการปฏิบัติของกองกำลังกลุ่มว้าจะเริ่มเคลื่อนย้ายคนไทย ในวันที่ 14 พ.ย. 66 โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ในการเดินทางตั้งแต่เมืองหนานเติ้งจนถึง จ.ท่าขี้เหล็ก และส่งมอบให้กับกองทัพบกที่ อ.แม่สาย
เมื่อคนไทยทั้ง 41 คน เดินทางถึงกองบังคับการกรมยุทธศึกษาทหารบกแขวงท่าขี้เหล็ก (บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก) ผู้บังคับการเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ฝ่ายไทย จะนำรถโดยสารปรับอากาศ (จัดจาก มทบ.37) เข้าไปรับคนไทยออกจาก บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก โดยใช้ช่องทาง จุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย
เมื่อรับตัวคนไทยเดินทางมาถึง จุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 จะดำเนินการคัดกรองโรค โดย รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช และรับประทานอาหาร ณ อาคารด่านศุลกากร ประจำจุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 รวมทั้งดำเนินกรรมวิธีของ ตม. และ พม. ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป
“ฝ่ายเมียนมา ยืนยันว่า คนไทยทั้ง 41 คน จะถูกส่งตัวได้อย่างเร็วที่สุด ในวันที่ 16 พ.ย. และอย่างช้าที่สุด ไม่เกินวันที่ 17 พ.ย.”
ส่วนคนไทย จำนวน 246 คน ที่ยังอยู่ในเมืองเล่าก็ก่าย ปัจจุบันกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างประสานการปฏิบัติกับเมียนมาและจีน เพื่อขอรับตัวคนไทยในกลุ่มนี้กลับประเทศไทย ซึ่งมีขั้นตอนและใช้ระยะเวลา
กองทัพบก โดยทีมประสานงานที่รับผิดชอบ ร่วมกับมูลนิธิเอ็มมานูเอล (IMF Thailand) จะประสานการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ติดตามและประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อวางแผนความเป็นไปได้ในการเคลื่อนย้ายคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่อีก 3 กลุ่ม รวม 246 คน ให้ได้กลับประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
