หนุ่มแรงงานไทย ร่ำไห้ก้มกราบเท้าพ่อแม่ เปิดใจคิดว่าชีวิตนี้ จะไม่ได้เจอกันแล้ว หลังได้รับอิสรภาพ กลุ่มฮามาสปล่อยตัวกลับไทย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 พ.ย.66 ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายต้องพนา ปินะกาโล บิดาของนายพรสวรรค์ ปินะกาโล อายุ 30 ปี เข้าสวมกอดลูกชาย พร้อมร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังจากลูก ถูกกลุ่มฮามาส จับเป็นตัวประกันและถูกปล่อยตัวออกมาปลอดภัย ก่อนที่นายพรสวรรค์จะก้มกราบเท้าพ่อ พร้อมร้องไห้ออกเช่นเดียวกัน

นายต้องพนา กล่าวว่า วันนี้เตรียมของไว้ให้ลูกชาย แต่ไม่บอกว่าเป็นอะไร เป็นของที่ลูกชายชอบมาก ความรู้สึกตอนนี้มีความสุขมาก เหมือนได้ของที่หายไปกลับคืนมา ช่วงที่รู้ว่าลูกชายถูกจับเป็นตัวประกัน มีรายชื่อ ยอมรับว่าทุกข์ใจมากจริงๆ คิดอะไรไม่ออก ที่มีกระเเสข่าวว่าเจอศพคนไทย คิดลึกๆ ในใจว่าอาจจะเป็นลูกชายตัวเอง แต่พอไปตรวจแล้ว ดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทำให้ตัวเองและครอบครัวมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง จนทหารไปเจอลูกชายในโรงพยาบาล ถึงรู้ว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ จึงอยากบอกลูกชายว่า “กลับบ้านเรานะลูก พ่อแม่และคนที่บ้านรออยู่”

นายพรสวรรค์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่คอยติดตามและให้กำลังใจคนไทย ที่อยู่ในอิสราเอล ถ้าไม่มีทุกคน ตัวเองคงไม่ได้กลับมาประเทศไทย ตอนนี้ดีใจมากๆ ดีใจที่สุดในชีวิตไม่รู้จะพูดคำไหนได้มากกว่าคำว่าดีใจ

“สำหรับความรู้สึก 2 -3 อาทิตย์ที่ผ่านมาอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะดีไปมากกว่านั้น ถ้าเพื่อนแรงงานไทยในอิสราเอลไม่เสียชีวิต ดีที่หลายคนรอดและเสียใจกับคนที่เสียชีวิตด้วย ส่วนตัวในสถานการณ์ดังกล่าว ก็กลัวที่จะไม่ได้เจอครอบครัวอยู่เหมือนกัน พยายามไม่คิดเยอะ คิดแค่วันต่อวันเท่านั้น” นายพรสวรรค์กล่าว

ขณะที่นางลำพอง ปินะกาโล อายุ 51 ปี มารดาของนายพรสวรรค์ เมื่อเห็นลูกชายก็รีบวิ่งเข้ามาสวมกอด พร้อมกับร้องไห้ทั้งน้ำตา ก่อนที่จะมอบสายสิญจน์ให้ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตัวลูกชายด้วย

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน