ฝ้าย แอมฟายน์ นักร้องดัง ขึ้นโรงพักแจ้งความถูกมิจฉาชีพ หลอกค่าจองที่พักโฮมสเตย์ดังเชียงใหม่ สูญเงินหมื่น เตือน เป็นอุทาหรณ์ หวังได้เงินคืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.2566 น.ส.ณัฐหทัย แสงเพชร หรือ ฝ้าย แอมฟายน์ อายุ 34 ปี นักร้องชื่อดัง เดินทางเข้าพบ ว่าที่ พ.ต.ต.ชวิน สท้านวัตร์ สารวัตร(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ศศิวิมล (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ฐานฉ้อโกง, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังถูกหลอกให้โอนเงิน 11,980 บาท เป็นค่าจองที่พักโฮมสเตย์ชื่อดังใน อ.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่

โดยเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ฝ้าย แอมฟายน์ ได้ติดต่อกับเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ภูดอย โฮมสเตย์ ม่อนแจ่ม” เพื่อติดต่อขอจองบ้านพัก เป็นเวลา 2 คืน หลังตกลงกับแอดมินเพจเป็นที่เรียบร้อย จึงโอนเงินค่าจองเต็มจำนวน เข้าที่บัญชีดังกล่าว ไป 11,980 บาท

ฝ้าย แอมฟายน์ นักร้องดัง ขึ้นโรงพักแจ้งความถูกมิจฉาชีพ หลอกค่าจองที่พักโฮมสเตย์ดังเชียงใหม่

ฝ้าย แอมฟายน์ นักร้องดัง ขึ้นโรงพักแจ้งความถูกมิจฉาชีพ หลอกค่าจองที่พักโฮมสเตย์ดังเชียงใหม่

ต่อมาไม่สามารถติดต่อเเอดมินเพจได้ และทราบภายหลังว่า มีมิจฉาชีพแอบอ้างเพจของโฮมสเตย์แห่งนี้ เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายโอนเงินไปหลายรายแล้ว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรับแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ฝ้าย กล่าวว่า เรื่องก็คือว่า ตนจะไปเที่ยวเชียงใหม่กับครอบครัว จะไปแบบพักบนดอยอะไรอย่างนี้แล้วเราก็พยายามหาที่พักจริง ๆ ไปทั้งหมด 5-6 วัน แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งของทริปคือหาที่พักได้แล้ว แต่ว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 2 คืนที่ยังไม่ได้ที่พัก เราก็พยายามหาตามในแอปพลิเคชันที่เขาไว้จองที่พักแบบเชื่อถือได้แต่มันยังไม่มีที่ที่ถูกใจ

ฝ้าย กล่าวต่อว่า ก็เลยพยายามลองไปหาทางแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งก็เลยมาจบที่แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ตอนนั้นไม่ได้ทันคิดทั้ง ๆ ที่ดูข่าวอยู่ตลอด แต่พอถึงคราวตัวเองจริง ๆ เราก็พยายามลองหาแล้วก็ไปเจอที่หนึ่งแบบ เฮ้ย มันสวยมากเลยก็เลยลองทักไปถามเขา พอทักไปถาม เราก็ได้คำตอบว่าวันที่เราอยากไป 2 คืนมันว่าง








Advertisement

ฝ้าย กล่าวอีกว่า เราพยายามดูก่อนสิ่งที่เราดูคือ เราเจอโพสต์ที่เป็นคลิปวิดีโอแล้วก็มีคนกดไลก์เยอะมาก มีคนคอมเมนต์มีคนแชร์เยอะมาก ซึ่งเราก็คิดว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอย่างนี้ เลยถามเขาไปเพราะเขาบอกว่าว่าง ก็เลยทำการโอนเงินก่อน ตนเป็นคนโอนเอง แล้วมันก็ขึ้นเป็นชื่อบุคคล เราก็แอบคิดแล้วก็ยังพูดเล่น ๆ กันอยู่เลยว่า ทำไมเป็นชื่อคน ไม่ใช่ว่าเป็นมิจฉาชีพนะ

ฝ้าย กล่าวด้วยว่า แต่ตอนนั้นคือมือกดโอนเงินไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าเรากดไปปั๊บก็พอคำพูดของตนมันไปเอะใจก็เลยไปลองเสิร์จดูสรุปก็คือไปเจอเพจจริงและเขาก็บอกว่าตอนนี้คนโดนโกงกันเยอะมาก ๆเลย แล้วก็อยากจะเตือนทุกคนไว้ว่า จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊กหรือแพลตฟอร์มไหนก็ตามส่วนมากทำไมไม่ใช่ว่าแบบจะโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล

“ส่วนใหญ่จะโอนผ่านเว็บไซต์ เพราะฉะนั้นอยากให้เราระมัดระวัง ตรงนี้ไว้ด้วยแล้วก็เป็นความผิดพลาดที่เราเอะใจแล้วก็จริง แต่ตอนนั้นคือมันสายไปแล้ว แล้วก็มารู้ทีหลังว่าเรามาเสิร์จดูมีชื่อของที่พักที่เนี่ยเป็นเพจปลอมแบบประมาณหลายสิบอันเลย อยากให้เป็นอุทาหรณ์ของหลาย ๆ คนว่าเวลาอยากจะจองอะไรให้ใจเย็น ๆ เข้าใจว่าช่วงนี้คนน่าจะโดนประมาณนี้กันเยอะ แล้วก็มีหลายคนที่โดนมูลค่าสูงกว่านี้ แล้วก็ไม่ใช่แค่จังหวัดเดียวเป็นแบบทั่วประเทศเลย” ฝ้าย แอมฟายน์ กล่าว

น.ส.ณัฐหทัย กล่าวด้วยว่า อยากให้ดูดี ๆ เช็กดี ๆ แล้วเท่าที่เห็นมาส่วนใหญ่สถานที่ที่แบบสวย ๆ ดี ๆ ก็ค่อนข้างที่จะเต็มหมดแล้วถ้าไปเจอว่า ที่สวย ๆ แล้วยังว่างอยู่ ก็อยากให้คิดเยอะ ๆ จะได้ไม่ผิดพลาดแบบง่าย ๆ แล้วถ้าใครที่โดนแบบนี้ก็อย่าลืมแบบออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองแล้วก็รีบโทรอายัดบัญชีของทั้งปลายทางแล้วก็ต้นทางของเราด้วย ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะได้เงินคืนไหม แต่อย่างน้อยเราก็จะได้ระมัดระวังเอาไว้

น.ส.ณัฐหทัย กล่าวต่อว่า พอถึงเวลาจริง ๆ เราจะรู้สึกว่าเราดีใจ เราหาเราพยายามหามาแบบวันสองวันแล้ว และมันยังไม่ได้ที่พักสักทีแล้วเราเจอที่แบบตอนนั้นแบบโมเมนต์นั้นคือรู้สึกแบบว้าวเราจะได้ไปที่นี่หรออะไรอย่างนี้ มันเหมือนเราไม่ได้คิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนอื่นเลย ก็เลยตัดสินใจแบบโอนไปเต็มจำนวน

น.ส.ณัฐหทัย กล่าวอีกว่า แล้วส่วนมากเขาได้เงินคืนกันไหมอะไรอย่างนี้ อันนี้ก็อยากให้ทุกคนทราบไว้ว่าจริง ๆ แล้วมันมีบัญชีม้าเยอะมาก แล้วกว่าที่เราจะรู้ตัว ตนโอนเงินตอนประมาณ 19.47 น. แต่กว่าเราจะโทรหาธนาคารกว่าคู่สายจะว่างมันใช้เวลาไปอย่างน้อย 30 นาที เราไม่รู้เลยว่าเขาจะโอนเงินไปบัญชีไหนหรือโอนเงินออกไปแบบกี่ทอดต่อกี่ทอดแล้ว เพราะถ้าเทียบกับตัวเรา เวลาที่เราโอนเงินมันใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาที เงินมันก็ออกจากบัญชีเราได้แล้ว

ฝ้าย แอมฟายน์ กล่าวด้วยว่า อยากฝากทุกคนว่าไม่เกิดขึ้นก็จะดีที่สุด เพราะอย่างแรกเลยคือเสียความรู้สึก อันที่ 2 คือเสียเวลาแน่ ๆ เพราะเราก็ต้องมารวบรวมข้อมูลเอามาแจ้งความ แล้วก็ยังต้องเอาไปยื่นในขั้นตอนต่อไปอีก ก็คาดหวังว่าจะได้เงินคืน ถ้าได้คืนก็คงจะดีเพราะเราก็ไม่อยากมีความรู้สึกไม่ดีกับการต้องไปจองที่พักแบบนี้ แต่ถ้าไม่ได้คืนก็ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับตัวเองแล้วก็เป็นบทเรียนให้กับทุก ๆ คนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน