กองปราบ นำกำลังบุกรวบหนุ่มแสบ อ้างชื่อ ผบช.ก.-ผู้พิพากษา ช่วยวิ่งเต้นคดี ถอดกำไลอีเอ็ม ลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 4.5 ล้าน แฉประวัติเคยถูกจับกว่า 20 คดี
วันที่ 21 ธ.ค.2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. และ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2. บก.ทล. ร่วมกันแถลงจับกุมนายพรหมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 39/2566 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2566
ข้อหา “ฉ้อโกง, เรียกรับทรัพย์สิน เป็นการตอบแทนในการจูงใจหรือจะจูงใจเจ้าพนักงาน โดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย” หลังตามจับกุมได้บริเวณหน้าหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังมะนาว ถนนพระราม 2 อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
กองปราบ นำกำลังบุกรวบหนุ่มแสบ อ้างชื่อ ผบช.ก.-ผู้พิพากษา ช่วยวิ่งเต้นคดี ถอดกำไลอีเอ็ม ลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 4.5 ล้าน
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้ามีผู้เสียหายซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด อยู่ระหว่างต่อสู้คดีในชั้นศาล ต่อมานายณฐพนธ ผู้ต้องหา อ้างตัวว่า ตนทำงานอยู่ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สามารถช่วยวิ่งเต้นคดียื่นขอประกันตัว และขอถอดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพราะสนิทสนมกับผู้พิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า ต่อมานายณฐพนธได้ไปยื่นเรื่องประกันตัวผู้เสียหายตามขั้นตอนของศาล จนผู้เสียหายได้ประกันตัว นายณฐพนธก็ไปแอบอ้างว่า เพราะการวิ่งเต้นของตน พร้อมเรียกค่าใช้จ่าย จำนวน 3,750,000 บาท
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันผู้เสียหายทราบอีกว่า ตนยังถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ” ของบก.ปคบ.ซึ่งอยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยนายณฐพนธ อ้างว่า สามารถประสานกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ช่วยเหลือทางคดีได้ ผู้เสียหายก็หลงเชื่อโอนเงินไปให้อีก 5 แสนบาท รวมแล้วผู้เสียหายถูกหลอกไปกว่า 4 ล้านบาท
Advertisement
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ต่อมาผู้เสียหายมารู้ว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายจับ และยังเข้ามาแจ้งความที่กองปราบฯ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอีกด้วย ก่อนจะตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายณฐพนธ ขอให้การปฏิเสธ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาย้อนหลังไป 10 ปี พบเคยถูกจับกุมในคดีฉ้อโกง, พ.ร.บ.เช็ค และคดีอื่น ๆ มาแล้วมากกว่า 20 กว่าคดี โดยแผนประทุษกรรมที่พบ คือหลอกสั่งจองตั๋วเครื่องบิน, ออกเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลอกช่วยเหลือวิ่งเต้นคดี จึงนำตัวส่ง สภ.สารภี ดำเนินคดีต่อไป
