‘แบ็กทูเบสิก’ ผบ.ตร.ชมชุดคลี่คลายคดี ‘น้องชมพู่’ แม้ไร้หลักฐานในอากาศ ชี้คดีนี้ยากมาก ยกเป็นโมเดลให้นักสืบรุ่นใหม่
วันที่ 21 ธ.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยถึงมาตรฐานการทำงานของพนักงานสอบสวน ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ว่า ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และรู้สึกพอใจผลการปฏิบัติงานในคดีนี้ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากมาก
เนื่องจากคดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานในอากาศ ไม่มีประจักษ์พยานใดๆ แต่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะฝ่ายสืบสวนได้พยายามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คือ เส้นผมของน้องชมพู่ที่ถูกตัด และพยานบุคคลที่ให้การมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยกลับคำให้การเลย ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้สำนวนมีความแน่นหนาในระดับหนึ่ง จนทำให้ศาลเชื่อและมีคำพิพากษาดังกล่าวได้
- อ่านข่าว เปิดพยานหลักฐาน 8 ข้อ นำไปสู่การตัดสินคดีน้องชมพู่ จำคุกลุงพล 20 ปี
- อ่านข่าว เปิดภาพหลักฐานเด็ด เทียบเส้นผมน้องชมพู่ เจอในรถลุงพล กับพบบนเขาจุดพบศพ
- อ่านข่าว เปิดหลักฐานสำคัญ “เส้นผมในรถ” มัดตัว “ลุงพล” มีองศารอยตัดตรงกับที่เจอข้างศพ
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้โต้แย้งว่า ไม่ได้รับความชอบธรรมในการเข้าตรวจค้นรถของตนเองนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และการที่ศาลยกฟ้องนั้นก็เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยจึง ยกประโยชน์ให้จำเลย แต่หากมีพยานหลักฐานอื่นๆ ก็สามารถเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ได้
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะต้องยกคดีของลุงพลเป็นโมเดลในการปรับปรุงพัฒนางานสืบสวนในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ของคนร้าย และการสืบสวนแบบดั้งเดิม (back to basic) ซึ่งวานนี้ได้แจ้งกับที่ประชุมของ บก.สส.บช.น.แล้วว่า ให้ฝึกนักสืบรุ่นใหม่ๆ ให้สามารถสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ยกระดับให้มีความเป็นสากลและมืออาชีพมากขึ้น