ยายบ้านตรงข้าม เปิดใจ แม่ พ.ท.หญิง ใจแข็ง ยืนกอดร่างลูกสาว หลังถูก น.ต. ยิงเสียชีวิตคารถ เซ่นปมหึงหวง เผย เตรียมทำบุญบ้าน

จากกรณี พ.ท.หญิง ปาลิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ถูก น.ต.สุรเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ทำงานอยู่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ก่อนฝ่ายชายจะยิงตัวเองตายตามภายในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 10 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านถูกปิดล็อก ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน คาดว่าทางญาติผู้เสียชีวิตเดินทางไปติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บริเวณจุดเกิดเหตุยังมีร่อยรอยคราบเลือดและรอยชนกำแพงบ้าน

ยายบ้านตรงข้าม เปิดใจ แม่ พ.ท.หญิง ใจแข็ง ยืนกอดร่างลูกสาว หลังถูก น.ต. ยิงเสียชีวิตคารถ เซ่นปมหึงหวง

ยายบ้านตรงข้าม เปิดใจ แม่ พ.ท.หญิง ใจแข็ง ยืนกอดร่างลูกสาว หลังถูก น.ต. ยิงเสียชีวิตคารถ เซ่นปมหึงหวง

จากการสอบถาม นางมะลิ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกรถกระบะของผู้ตายพุ่งชนกำแพงบ้าน กล่าวว่า เห็นทั้งสองขับรถออกไปทำงานด้วยกันเป็นประจำ โดยฝ่ายหญิงเป็นคนขับ หลังเลิกงานก็กลับด้วยกันตลอด ตอนเกิดเหตุไม่ได้ยินเสียงปืนเพราะอยู่ในบ้าน

นางมะลิ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นทั้งสองคนมีปากเสียงหรือทะเลาะอะไรกัน ตนมาทราบเรื่องหลังเกิดเหตุแล้ว เมื่อมีรถกู้ภัยและตำรวจมาจอดหน้าบ้านกันเยอะ ตนจึงได้เดินออกมาดู ก็เห็นว่าทางแม่ของฝ่ายหญิงยืนเกาะประตูรถอยู่ ในรถเห็นทั้งสองคนมีเลือดไหลท่วมตัว

นางมะลิ กล่าวอีกว่า ตนจึงถามแม่ฝ่ายหญิงว่า เขาเป็นอะไร แม่ผู้ตายบอกว่าถูกยิง ตนจึงถามอีกว่าถูกยิงมาจากที่ไหน แม่ฝ่ายหญิงก็บอกว่าถูกยิงตรงนี้ โดยแม่ฝ่ายหญิงยังบอกกับตนว่า ลูกสาวโทรศัพท์ไปบอกว่า มีปัญหากับแฟนหนุ่ม แม่เลยมาดักรอที่บ้านเพื่อจะช่วยพูดปรับความเข้าใจให้ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อนทั้ง ๆ ที่แม่เปิดประตูเล็กของบ้านรอแล้ว








Advertisement

นางมะลิ กล่าวด้วยว่า แม้จะเกิดเหตุแล้วทางแม่ฝ่ายหญิงตกใจแต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา เขาใจแข็งมาก ซึ่งหลังจากนี้ตนจะปรึกษากับลูกชายอีกครั้งเพื่อทำบุญบ้าน เพราะจุดที่ทั้งสองคนเสียชีวิตในรถที่พุ่งชนเข้าที่รั้วบ้านของตนพอดี

ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในรถของฝ่ายหญิง พบปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก ส่วนปลอกกระสุนที่ทะลุออกไปนอกรถนั้น ยังหาไม่เจอ ปืนที่ใช้ก่อเหตุขนาด 9 มม. เป็นของฝ่ายชาย มีทะเบียนถูกต้อง

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ตรวจสอบในพื้นที่พบว่า กล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้การได้ แต่มีพยานหลักฐานครบถ้วนในการประกอบสำนวน เบื้องต้นเกิดจากการทะเลาะกัน เนื่องจากฝ่ายชายหึงหวงฝ่ายหญิง และฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง ยังไม่ได้จดทะเบียน และไม่มีลูกด้วยกัน

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สอดคล้องกับแม่และพ่อของฝ่ายหญิง ที่ให้การว่าทั้งคู่มีปัญหากัน และทะเลาะกันมาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยหรือไม่ ขณะนี้ตำรวจได้ตรวจสอบครบทุกมิติแล้ว ไม่มีสาเหตุอื่นนอกจากการหึงหวง ฝ่ายชายก่อเหตุกับฝ่ายหญิง และยิงตัวเองตายตาม ซึ่งคดีพนักงานสอบสวน จำเป็นต้องทำการสั่งไม่ฟ้อง เพราะผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตำรวจฝากไปยังประชาชนที่กำลังมีปัญหา หรือกำลังเครียด ให้เอาปืนห่างจากตัวเอง เพราะความเครียด อาจจะทำให้เราขาดสติ จนก่อเหตุไม่คาดคิดได้ และทุกปัญหามีทางออกเสมอ ไม่จำเป็นต้องจบชีวิตแบบนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เดินทางเข้าตรวจสอบรถคันเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนมอบรถซึ่งเป็นชื่อของหญิงที่เสียชีวิตคืนให้กับญาติ

ในเวลาต่อมา หญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นญาติกับ พ.ท.หญิง ปาลิดา ได้เดินทางกลับมาที่บ้านพักเพื่อเตรียมเอกสารและเสื้อผ้าไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อขอรับร่างของ พ.ท.หญิง ปาลิดา ในช่วงบ่ายนี้ โดยทางครอบครัวกำลังอยู่ในระหว่างการปรึกษาว่าจะนำร่างไปตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน