หนุ่มตาบอด ร้องสายไหมต้องรอด ญาติโกง ยึดที่ดิน หลอกเซ็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์ คิดว่าเป็นเอกสารเงินกู้ เผย บริจาคส่วนหนึ่งเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้หมู่บ้านด้วย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ม.ค.2567 ที่สายไหมต้องรอด นายลิขิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชายตาบอด กล่าวว่า ตนเคยไปกู้เงินกับญาติที่เป็นน้าแท้ ๆ และน้องสาวแม่แท้ ๆ เป็นคนพาไป ตนกู้เงิน 20,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ส่งเดือนละ 2,000 บาท ตอนนั้นตนคิดว่าเซ็นเอกสารเงินกู้

นายลิขิต กล่าวต่อว่า แล้วอยู่ดี ๆ วันหนึ่งเขามาพูดกับตนว่า เราได้ไปเซ็นเอกสารมอบที่ดินให้กับเขาแล้ว ซึ่งที่ดินทั้งหมด 6 ไร่ เป็นพื้นที่วังน้ำเขียว เป็นที่มีราคา ซึ่งใบโฉนดที่ดินตนเคยไปแจ้งหายไว้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่เขาได้อย่างไร

หนุ่มตาบอด ร้องสายไหมต้องรอด ญาติโกง ยึดที่ดิน หลอกเซ็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์ คิดว่าเป็นเอกสารเงินกู้

หนุ่มตาบอด ร้องสายไหมต้องรอด ญาติโกง ยึดที่ดิน หลอกเซ็นเอกสารมอบกรรมสิทธิ์ คิดว่าเป็นเอกสารเงินกู้

นายลิขิต กล่าวอีกว่า ตนมองไม่เห็นมาตั้งแต่ 12 ปีแล้ว ตอนเซ็นเอกสารตนมองไม่เห็น รู้แค่ว่าเซ็นเอกสารกู้เงิน ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ทวงถามให้ส่งดอกมาตลอด ยืนยันว่าตนไม่ได้เซ็นมอบที่ดินให้เขา ซึ่งที่ดินนี้ได้รับมรดกมาจากแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

นายลิขิต กล่าวว่า วันที่เขาโทรมาแจ้งบอกว่าจะมายึดที่ดิน เพราะตนไม่จ่ายดอกเบี้ย ซึ่งตนยอมรับว่าไม่ได้จ่ายเงินเขาจริง ก็ยังได้เข้ามาหาที่บ้าน บอกว่าจะไล่คนที่อยู่บ้านออกทั้งหมด เพราะเขาจะเข้ามาปลูกอ้อยและทำผลประโยชน์ในที่ดินทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้าที่จะรู้เรื่องนี้ ตนได้บริจาคที่ดินส่วนหนึ่งเพื่อทำแทงก์น้ำให้คนในหมู่บ้านได้ใช้ด้วย

นายลิขิต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนเพิ่งตกงาน เพราะว่าผู้รับเหมาแคมป์ก่อสร้าง เขาไม่จ่ายค่าแรง หนีกลับบ้านไปหมดไม่มีใครเลย ตอนนี้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพักกลางดง แต่เรื่องยังคงเงียบอยู่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และเหลือเงินติดตัวอยู่ 40 บาท แต่ก็จะขายที่ดินเพราะเป็นมรดกจากแม่

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ค่อนข้างน่าเห็นใจและต้องตรวจสอบ พาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม ไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดว่าสิ่งที่พี่เขาพูดเป็นข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นจริง แล้วเขาโดนยึดที่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับเขา

นายเอกภพ กล่าวต่อว่า ซึ่งเขาตาบอดทั้งสองข้างเดินทางมาจากนครราชสีมาช่วงเย็นเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มาถึงนี่เกือบเที่ยงคืนจึงได้จัดหาที่พักให้เขาก่อน จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่มาพูดคุยและได้ทราบเรื่อง

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า การกระทำแบบนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้พิการและตัวพี่เขาถือว่าเป็นคนที่เสียสละคนหนึ่ง เพราะเคยบริจาคซื้อที่ดินส่วนหนึ่งให้หมู่บ้านสร้างสาธารณประโยชน์ แต่ดันมาโกงที่ดินลักษณะแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง เดี๋ยวจะให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบต่อไป

นายเอกภพ กล่าวด้วยว่า แล้วอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ช่วยกระตือรือร้นจะได้ไม่ต้องให้คนที่เดือดร้อนเดินทางมาถึงนี่เพราะพี่เขาน่าสงสารมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน