ปอศ.-กรมสรรพสามิต ทลายเครือข่าย บุหรี่เถื่อน “เจ๊เพ็ญฝั่งธน” ผงะ ของกลางล็อตใหญ่ ทำรัฐเสียหายกว่า 45 ล้านบาท เปิดปากสารภาพ ซื้อมาจาก “เจ๊โอน”
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ม.ค.2567 ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต
ร่วมแถลงจับกุม นายตะวัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พร้อมบุหรี่เถื่อนยี่ห้อต่าง ๆ จำนวน 4,881 คอตตอน หรือ 48,810 ซอง, รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และรถกระบะตู้ทึบ 1 คัน หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ไปรษณีย์ไทย สาขาต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
ปอศ.-กรมสรรพสามิต ทลายเครือข่าย บุหรี่เถื่อน “เจ๊เพ็ญฝั่งธน” ผงะ ของกลางล็อตใหญ่ ทำรัฐเสียหายกว่า 45 ล้านบาท
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ก่อนหน้ามีการจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน “เจ๊เพ็ญ” ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ย่านฝั่งธน พร้อมของกลางบุหรี่ต่างประเทศ 40 ลัง หรือประมาณ 20,973 ซอง จากนั้นจึงขยายผลเรื่อยมา จนทราบว่า บุหรี่เถื่อนเหล่านี้ถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำมาคัดแยกใส่กล่องพัสดุไปรษณีย์ ทำให้มีลักษณะคล้ายกับกล่องพัสดุ ก่อนจะส่งต่อให้กับลูกค้าผ่านขนส่งเอกชน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวต่อว่า หลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเตรียมจะนำบุหรี่เถื่อนล็อตใหญ่ มาส่งพัสดุให้ลูกค้าผ่านไปรษณีย์ไทย สาขา ต.ทับไทร จึงจัดกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งพบนายตะวันขับรถเข้ามาจอด จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ก็พบบุหรี่ของกลางดังกล่าวทั้งหมด
จากการสอบสวน นายตะวัน ให้การรับสารภาพว่า รับซื้อบุหรี่เถื่อนมาจาก “เจ๊โอน” หญิงสาวชาวกัมพูชา สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 50-100 กล่อง หรือ 4,000-6,000 คอตตอน จากนั้นก็จะนำไปกระจายส่งต่อให้กับลูกค้าตามพื้นที่ต่าง ๆ
Advertisement
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเครือข่ายดังกล่าวในระยะเวลา 1 ปี มีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท หลังจากนี้จะสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการต่อไป ส่วนตัวนายตะวัน จึงแจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย สินค้าที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร และ มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
ด้าน ดร.เอกนิติ กล่าวว่า บุหรี่เถื่อนของกลางที่ตรวจยึดได้นี้ มีมูลค่า 5-6 ล้านบาท เมื่อนำไปคำนวณเป็นภาษีที่จะต้องเสียให้กับรัฐ ก็จะอยู่ที่ 45 ล้านบาท ซึ่งนั่นหมายถึงตัวเลขที่รัฐจะได้รับความเสียหาย หรือขาดประโยชน์ หากบุหรี่เถื่อนเหล่านี้ถูกนำเข้ามาในประเทศ
