แม่ ‘โยโกะ’ คาใจฝ่ายชายตั้งกฎ จนลูกกดดัน เพื่อนเผยประเด็นไซยาไนด์ จ่อพบตำรวจอีก เพราะมีหลายอย่างยังคาใจ อยากเห็นภาพวงจรปิดที่หายไป

จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “โยโกะ” พริตตี้สาวชื่อดัง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 ที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย กทม. โดยผลชันสูตรศพพบสารไซยาไนด์ในเลือด ทำให้ครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าอาจไม่ได้มาจากการจบชีวิตตัวเองนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 15 ม.ค.67 นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ แม่ของน้องโยโกะ พร้อมเพื่อนสาวของโยโกะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าขณะนี้ติดใจอะไรเกี่ยวกับคดีของน้องโยโกะ เพื่อนสาวตอบว่า แม่น่าจะยังสงสัยเรื่องของเวลากล้องวงจรปิดที่หายไป หากกล้องวงจรปิดเป็นการบันทึกภาพเฉพาะช่วงที่มีคนเดินผ่านจริง อยากให้นิติออกมาชี้แจงให้ชัดเจน เนื่องจากยังคงติดใจภาพบางส่วนโดยเฉพาะภาพทางด้านหลังห้องที่ว่าไม่ได้ล็อคห้อง และห้องเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำด้วยเนื่องจากนิติให้ภาพมาแค่ช่วงเช้าแต่อยากได้ภาพช่วงดึก ขณะที่น้องโยโกะยังอยู่ในห้องแล้ว

ส่วนเรื่องข้อความเงื่อนไขต่างๆ เช่นการให้ลบเฟซบุ๊ก ไอจี มาทราบตอนน้องเสียชีวิตแล้วยอมรับว่าตกใจ โดยเห็นจากโทรศัพท์ของน้องโยโกะ มองว่าเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์เยอะเกินไป ขณะที่เพื่อนสาวพูดเสริมว่า มองว่าเป็นการกดดันกันเกินไปเช่นกัน เพราะโยโกะอยากไปไหนมาไหนอิสระ อยากออกไปเจอ ไปคุยกับเพื่อนบ้าง

สำหรับเงื่อนไขนี้จะเป็นฉนวนเหตุให้น้องโยโกะจบชีวิตตัวเองได้หรือไม่ เพื่อนสาวตอบว่า คิดว่าแม่ก็สงสัยเหมือนกันอาจจะทำให้กดดัน เครียด แต่สุดท้ายก็ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

ซึ่งคืนวันเกิดเหตุ เพื่อนสาวเปิดเผยว่า ตนไม่ได้ไปงานเลี้ยงด้วย แต่โดยปกติโยโกะเป็นคนร่าเริงเข้มแข็ง มีอะไรก็จะบอกเพื่อน ส่วนเรื่องความรักรู้ว่ามีแฟนคบหากันมาประมาณ 1 ปี และรักกันดี แต่ไม่เคยมีใครได้เห็นหน้า หรือรูปของเพื่อนชายมาก่อนเลย

ส่วนแม่น้องโยโกะ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายชายยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหาตน ซึ่งวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่อยากสอบถามตำรวจ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดส่วนที่ภาพหายไป

และอีกประเด็นคือ วันที่พบร่างน้องทำไมฝ่ายชายไม่ให้นิติคอนโดพาขึ้นไปเปิดห้องตั้งแต่ตอนนั้น แต่กลับส่งข้อความให้หลานมาเปิดห้อง ทั้งที่รู้รหัส และวิธีการเปิดห้องทุกอย่าง ทำไมต้องรอให้หลานมา ทั้งที่ญาติไม่รู้รหัส

อีกทั้ง แม่ยอมรับว่าแชทสุดท้ายของน้องโยโกะที่คุยกับเพื่อนชาย เห็นว่ามีปากเสียงและมีการส่งภาพบางอย่าง ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่ามองการส่งภาพมาให้จะเป็นการข่มขู่หรือไม่ เพื่อนสาวตอบแทน ว่าประเด็นนี้ให้ตำรวจเป็นคนตอบ เพราะเป็นหลักฐานในคดีที่จะนำไปมอบให้กับตำรวจ ซึ่งภาพที่ส่งมานั้นเป็นการคุยกัน ในวันที่ 31 ต.ค.66 หลังจากโยโกะเข้าห้องไปแล้ว

นอกจากนี้เพื่อนยังตั้งข้อสังเกตถึงขวดไซยาไนด์ที่อยู่ในตู้เซฟ ว่าทำไมถึงต้องใส่ถุงซิปล็อคแล้วเก็บไว้ในตู้เซฟ ทั้งที่ขวดสามารถตั้งอยู่ได้ และการเก็บในตู้เซฟเพียงอย่างเดียว น่าจะปลอดภัยเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องใส่ถุงซิปอีกชั้นนึง

ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูข้อมูลการสั่งพัสดุย้อนหลัง 1 ปี เพื่อตรวจสอบที่มาและคาดว่าต้องตรวจสอบได้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าในกลุ่มเพื่อน ก็เคยคุยกันช่วงที่มีข่าวไซยาไนด์ แต่เป็นเพียงการคุยกันตลกๆ ทำคอนเทนต์ โดยไม่มีท่าทีว่าโยโกะจะไปซื้อหรือสั่งมาลองเลย

ส่วนตัวยังเชื่อ 50/50 ว่า โยโกะอาจจะฆ่าตัวตายเองก็ได้ แต่ที่ผ่านมาเป็นคนที่เข้มแข็งและมักจะเป็นคนให้คำปรึกษาให้กำลังใจเพื่อน เวลาทะเลาะกับแฟน หากผลทั้งหมดออกว่าโยโกะเป็นคนฆ่าตัวตายจริง คิดว่าเป็นอาจจะผลมาจากการถูกกดดันในส่วนนี้ด้วย ก็อยากให้ทางตำรวจเป็นคนตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม อยากให้ฝ่ายชายออกมาตอบข้อสงสัยทั้งหมด และยืนยันไม่ได้ปรักปรำใคร โยโกะอาจจะฆ่าตัวตายเองก็ได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน