เร่งค้นหา เมียฝรั่ง มรดก 13 ล้าน หายตัวปริศนา เตรียมงมสระน้ำข้างวัดอีกจุด หลังค้นหาจุดแรกยังไม่พบร่องรอย ด้าน น้องสาว เปิดเส้นทางการเงิน

จากกรณี น.ส.อรทัย (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับเงินมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2564 มากกว่า 13 ล้านบาทไทย แล้วแต่งงานใหม่กับชายชาวสวิตเซอร์แลนด์อีกคน ก่อนย้ายมาอยู่ประเทศไทย ที่บ้านโคกแขวน ม.5 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ประมาณ 2 ปี แต่หายตัวไปหลังจากทะเลาะกับสามีใหม่ อย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

และช่วงค่ำของวันที่ 26 ม.ค. น.ส.ธิดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) น้องสาวของ น.ส.อรทัย บอกว่า ลูกสาวของป้าที่เคยอยู่ใกล้บ้าน แต่ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ถูกวิญญาณ น.ส.อรทัยเข้าสิง บอกให้ช่วยงมร่างขึ้นจากสระน้ำใกล้กับจุดที่พบรถจักรยานยนต์ จอดทิ้งเอาไว้ โดยกู้ภัยฮุก 31 มาดำค้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่พบร่างของ น.ส.อรทัย

เร่งค้นหา เมียฝรั่ง มรดก 13 ล้าน หายตัวปริศนา เตรียมงมสระน้ำข้างวัดอีกจุด หลังค้นหาจุดแรกยังไม่พบร่องรอย

เร่งค้นหา เมียฝรั่ง มรดก 13 ล้าน หายตัวปริศนา เตรียมงมสระน้ำข้างวัดอีกจุด หลังค้นหาจุดแรกยังไม่พบร่องรอย

ล่าสุดวันที่ 28 ม.ค.2567 ครอบครัวของ น.ส.อรทัย ได้เตรียมการค้นหาขั้นต่อไป โดยเข้าไปขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดทุ่งแขวนที่อยู่ด้านหลังบ้านของ น.ส.อรทัย ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร เพื่อขอนำกำลังลงงมค้นหาภายในสระน้ำวัดที่มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่

ซึ่งเจ้าอาวาสได้อนุญาตแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ให้กู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ช่วยดำค้นหาร่าง น.ส.อรทัย ในสระน้ำกลางนา ใกล้กับจุดที่รถจักรยานยนต์ของ น.ส.อรทัย ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ แต่ดำค้นหาถึง 2 รอบ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

จนต้องขอให้ชาวบ้านนำเครื่องสูบ 2 เครื่อง มาสูบน้ำออกจากสระ ที่มีความกว้าง 15 เมตร ยาว 20 เมตร และลึกประมาณ 2 เมตร จนน้ำแห้งเกือบทั้งหมด แต่ก็ไม่พบร่าง น.ส.อรทัย หรือหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง

น.ส.ธิดารัตน์ น้องสาวของ น.ส.อรทัย กล่าวว่า ทางครอบครัวยังไม่ละความพยายาม ตอนนี้กำลังประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ว่าจะนำกำลังเข้ามาเริ่มปฏิบัติการค้นหาบริเวณสระน้ำข้างวัดที่อยู่หลังบ้านอีก 1 จุด คาดว่า น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันนี้

น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวต่อว่า และหากยังไม่พบอีกก็จะพยายามทุกวิถีทางตามหาตัวพี่สาวกลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะกลับมาในรูปแบบใด ส่วนเงินมรดกที่พี่สาวนำติดตัวกลับมา หลังจากสามีชาวต่างชาติเสียชีวิตเมื่อปี 2564 ประมาณ 1 ล้านบาทนั้น ตนไม่รู้รายละเอียดเส้นทางการเงินก้อนนี้มากนัก

น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวอีกว่า ทราบเพียงว่า พี่สาวนำมาซื้อรถยนต์ ที่นา ส่งเสียลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่อาชีวศึกษาแห่งหนึ่งของจังหวัด และมีการจดบันทึกรายชื่อกับรายการที่มีผู้ยืมเงินไปด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ด้วยความที่พี่สาวเป็นคนชอบเล่นพนัน ก็อาจจะใช้จ่ายในส่วนนี้ไปด้วย

น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวว่า อีกทั้งพี่สาวยังไม่ได้ทำงานอะไร จึงทำให้อาจจะใช้จ่ายมากพอสมควร ส่วนการเข้าถึงการเบิกจ่ายเงิน ก็มีเพียงพี่สาวและสามีคนปัจจุบันเท่านั้น จึงทำให้ไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดในเรื่องนี้

น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวด้วยว่า และหลังจากเกิดเรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายเลขบัญชีของพี่สาวไปติดตามหาหลักฐานตามขั้นตอน ส่วนสมุดเงินฝาก ตนได้นำมาปรับสมุดบัญชีดูแล้ว แต่หน้าสมุดไม่เพียงพอบันทึกรายการทั้งหมด เพราะมีการเบิกจ่ายเงินจำนวนมาก จึงไม่รู้ว่าจำนวนเงินตอนนี้คงเหลืออยู่เท่าไหร่

น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวต่อว่า ซึ่งรายการเงินที่พี่สาวใช้จ่ายเท่าที่พอจะจำได้ ประกอบด้วย ซื้อรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ ที่ใช้อยู่ประจำประมาณ 1.4 ล้านบาท, ซื้อที่นาจำนวน 8 ไร่ เป็นเงินประมาณ 1.2 ล้านบาท

และมีหลักฐานการรับจำนำที่ดินจำนวน 5 ไร่ เป็นเงิน 4 แสนบาท, รถจักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์ 1.2-1.3 แสนบาท นอกจากนี้ ยังมีรายการรายชื่อผู้กู้ยืมเงินอีกจำนวนหนึ่งด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน