ตร.ไซเบอร์ ทลายแหล่งผลิต ยาเสียสาว ย่านหนองแขม ของแก๊ง ‘KINGDOM 69’ ขายน้ำอัดลมผสมยาแก้แพ้ มอมเมาเยาวชน จับลูกจ้างรับออเดอร์ผสมตัวยาในเครื่องดื่ม
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.67 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ไกรพล แสงดึก รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกรินทร์ สนนาค สว.กก.2 บก.สอท.2
พร้อมด้วยนางอรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ผอ.ศรป.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ นำหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค.15/2567 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านย่านถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝังเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กทม.
ก่อนเข้าจับกุม นายรณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” วัตถุออกฤทธิ์ CLONARIL 148 เม็ด วัตถุออกฤทธิ์ CONVULSIL จำนวน 150 เม็ด, ยาฟาเทคไซรัป 29 ขวด ยามาโคลา 218 เม็ด, น้ำหวานกลิ่นบลูเบอรี่ จำนวน 4 ขวด ขวดบรรจุภัณฑ์ติดฉลาดยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตอีกหลายรายการ
ในความผิดฐาน “มีไว้ในครองครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ ม.35 (5), ม.94, ม.149 วรรคสาม และ “ขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 101″
พล.ต.ต.นิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วน 1441 และช่องทางเพจเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ตำรวจไซเบอร์ 2 บก.สอท.2”
โดยแจ้งเบาะแสว่า มีกลุ่มบุคคลใช้บัญชีเพจ ชื่อ “KingDom69 (ขายปลีก-ส่ง)” โพสต์ประกาศ โฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า ที่มีการนำตัวยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์หลายชนิดมาผสมน่าจะเข้าข่ายสินค้าผิดกฎหมายหรือสินค้าประเภทอาหารที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสินค้าที่เยาวชนจำนวนมากนิยมซื้อและนำมาบริโภค เพื่อมอมเมาเยาวชน
จากสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นหรือเยาวชน ส่วนหนึ่งนิยม นำยาที่มีส่วนผสมของ ยาโปรโคดิล (promethazine hydrochloride) หรือยาโปรเมทาชีน (Promethazune) รูปแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยาน้ำเชื่อมใสสีม่วง รสหวาน ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด และยาทรามาดอล (Tamadol) ซึ่งจัดเป็นยากลุ่มแก้แพ้ และแก้ปวดที่มีความจำเป็นต่อการรักษาโรค นำมาผสมกับน้ำอัดลมเพื่อดื่มกิน ทำให้มีอาการคล้ายคนเมา ง่วง มึน งง
บางกลุ่มใช้ยาตัวดังกล่าว ผสมกับน้ำต้มใบกระท่อมและน้ำจากสารสกัดของกัญชา หรือที่เรียกกัน ว่า “สี่คูณร้อย” มักจะนิยมในกลุ่มของวัยรุ่นและวันทำงานที่ต้องการ ดื่มกิน โดยไม่ใช่การดื่มกินเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ส่งผลให้มีฤทธิ์เหมือนกัน คือทำให้มีอาการ มัน งง เมา ง่วงเคลิ้ม เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจส่งผลให้มีผล ข้างเคียงต่างๆ ตามมา เช่น ชักหมดสติหรือเกิดภาพหลอน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนหาแหล่งผลิตและจำหน่าย จนทราบว่าที่บ้านดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตและส่งขายให้กับลูกค้า ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “KingDom69 (ขายปลีก-ส่ง)” มีผู้ติดตามกว่า 5,000 คน โดยมีนายนรเสฏฐ์ อายุ 33 ปี เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์และเป็นหัวหน้าแก๊ง “KingDom69“ มีเครือข่ายที่เป็นแนวร่วมในขบวนการอีกหลายคน ตั้งแต่สั่งซื้อวัตถุดิบที่เป็นตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ ขวด ฉลากป้ายชื่อผิตภัณฑ์
รวมทั้งส่วนผสมอื่นๆ จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้นและจับกุมตัวนายรณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ ทำหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้าและผสมตัวยาของเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” ที่ลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นซื้อไปแล้วจะนำไปผสมกับน้ำอัดลม ส่วนนายนรเสฏฐ์ ขณะทางเจ้าหน้าที่เจ้าตรวจค้นไม่พบตัวอยู่ภายในบ้าน
จากการสอบปากคำนายรณรงค์ ให้การว่า ตนเป็นเพียงลูกจ้างของนายนรเสฏฐ์มานานกว่า 1 ปี โดยทำหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้า และผสมตัวยาลงในเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ “LEAN KINGDOM 69” ร่วมทั้งบรรจุลงขวดก่อนส่งให้ลูกค้าทางบริษัทขนส่งเอกชนตามออเดอร์ที่สั่ง ในราคาขวดละ 100 – 150 บาท ตามยอดส่งมากหรือน้อย โดยจะมียอดสั่งเฉลี่ยเดือนละนับหลายร้อยขวด ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ดำเนินคดี
ด้าน นางอรัญญา เทพพิทักษ์ กล่าวว่า สำหรับยาที่ตรวจยึดได้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หากบริโภคไปแล้วจะมีอาการง่วงซึม หากบริโภคในปริมาณมากหรือบริโภคร่วมกับเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอร์จะเพิ่มการออกฤทธิ์ในการกดประสาท อาจทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออกถึงขั้นเสียชีวิตได้
จึงฝากเตือนไปยังประชาชน หากพบเห็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวัตถุออกฤทธิ์ดัวกล่าว ให้แจ้งข่อมูลมายังสายด่วน 1556 เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
