ตร.เตือนภัย ทองปลอม ยัดไส้ทังสเตน ระบาดช่วงตรุษจีน ตาเปล่าดูไม่ออก เผยพบสถิติย้อนหลัง 3 ปี คดีพิสูจน์ทองคำพุ่ง 2,271 คดี เสียหายราว 35 ล้าน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) เข้าร่วมตรวจสอบหลังได้รับรายงานจากกลุ่มงานตรวจทางเคมีฟิสิกส์ ที่ทำหน้าที่ตรวจพิสูจน์วัตถุของกลางปลอมปน ว่า ช่วงที่ผ่านมามีการนำของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ นำทองรูปพรรณ-ทองคำแท่งมาตรวจพิสูจน์ ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และที่หน่วยตรวจพิสูจน์หลักฐานทั่วประเทศ
โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 มีจำนวน 12 คดี และหากตรวจสอบสถิติย้อนหลัง 3 ปี (2564-2566) พบว่าทั่วประเทศตรวจพิสูจน์ทองคำ 2,271 คดี โดยประมาณ 2,000 คดีจะมีประเด็นปัญหาเรื่องเปอร์เซ็น และส่วนผสมการเจือปนของทองคำ โดยปี 2564 มี 122 คดี ปี 2565 มี 200 คดี และปี 2566 มีจำนวนถึง 1,633 คดี เป็นสถิติที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 35 ล้านบาท
สำหรับการตรวจสอบของ สพฐ.ตร. จะนำทองคำมาตรวจสอบโดยใช้เครื่องเอกซเรย์ X-ray Fluorescence (XRF) ซึ่งเป็นเครื่องมือทันสมัย มีความแม่นยำสูง เป็นเครื่องมือมาตรฐานสากล
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเตือนภัยช่วงตรุษจีนที่จะมาถึงว่า ขณะนี้มูลค่าทองคำบาทละ 34,000 บาท การไปซื้อทองคำ หรือร้านทองที่รับซื้อทอง หรือโรงรับจำนำก็ดี ขอให้ตรวจสอบ ถ้าจะซื้อทองต้องซื้อร้านที่มีชื่อเสียง มีการการันตี เนื่องจากมีการใช้ผงโลหะทังสเตนที่มีน้ำหนักใกล้เคียงทองคำไปผสม หรือยัดไส้ไว้ในทองคำ
โดยนิยมทำเป็นลักษณะทองรูปพรรณเก่าเก็บ ทำให้ไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า เพราะการตรวจสอบทั่วไป รวมถึงห้องปฏิบัติการตรวจสอบขนาดเล็กที่มีเครื่องมือไม่เพียงพอ ยากต่อการตรวจสอบส่วนผสมดังกล่าว
