รวบ สาววัย 21 ปี เจ้าของร้านดัง หลอกขายดาวน์โทรศัพท์ หลังหนีกบดานเกาะช้างกว่า 1 ปี ผู้เสียหายกว่า 100 ราย รับสารภาพอ้างหมุนเงินไม่ทัน หมายจับติดตัวเพียบ
วันที่ 15 ก.พ.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังชุดปฏิบัติการที่ 4 ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.มาริสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 953/2566 ลงวันที่ 28 พ.ย. 2566
กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” จับกุมได้ที่หน้าร้านรับส่งพัสดุ ไม่ทราบเลขที่ ซ.แอลบีคอมเพล็กซ์ ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
รวบ สาววัย 21 ปี เจ้าของร้านดัง หลอกขายดาวน์โทรศัพท์ หลังหนีกบดานเกาะช้างกว่า 1 ปี ผู้เสียหายกว่า 100 ราย
สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เดือดร้อน ที่ตั้งกลุ่มไลน์รวมผู้เสียหายกว่า 60 คน ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.มาริสา
ซึ่งมีพฤติการณ์เปิดร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม โดยให้ลูกค้าจ่ายเงินดาวน์ตามที่กำหนด จึงจะสามารถผ่อนชำระสินค้าได้ ต่อมาเกิดบ่ายเบี่ยงไม่ส่งสินค้า และได้ปิดเพจร้าน ทำให้มีลูกค้าได้รับความเสียหายกว่า 100 คน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ หลังรู้ว่าตัวเองถูกหมายจับ ได้หนีไปหลบซ่อนตัวไปตามจังหวัดต่าง ๆ จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่บนเกาะช้าง จ.ตราด ชุดจับกุมจึงได้วางแผนเดินทางไปจับกุมดังกล่าว
Advertisement
ส่วนพฤติการณ์เมื่อปี พ.ศ.2564 น.ส.มาริสา เปิดเพจ m.mymint.phone เพื่อจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยลูกค้าที่สนใจในช่วงแรกจะเป็นคนคุ้นเคยกัน เข้ามาผ่อนสินค้า เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หูฟัง เป็นต้น หากผ่อนชำระยอดเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ จึงได้รับสินค้าไป
โดยช่วงแรกจะมีลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาช่วงหลังเพจมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน จึงทำให้มีลูกค้าเข้ามาผ่อนชำระสินค้ามากขึ้น ลูกค้าที่สนใจต้องใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐานในการผ่อนชำระสินค้า
ต่อมาเมื่อลูกค้าได้ผ่อนชำระเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ และได้รับสินค้าไปแล้ว ไม่ยอมผ่อนชำระต่อ น.ส.มาริสา จึงเพิ่มเงื่อนไขของลูกค้าคนใหม่คือ ต้องจ่ายเงินดาวน์ตามที่กำหนด จึงจะสามารถผ่อนชำระสินค้าได้
และ น.ส.มาริสา ได้นำเงินดาวน์ของลูกค้าคนใหม่ไปหมุน เพื่อชำระสินค้าของลูกค้าคนเก่า ทำให้ร้านขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาบริหารธุรกิจต่อได้ จึงได้ปิดเพจดังกล่าวลง และมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนหนีมาหลบซ่อนตัวที่เกาะช้าง หลังจากรู้ว่ามีหมายจับ และได้มาทำงานรับจ้างร้านรับส่งพัสดุ ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง เพราะบางคนดาวน์ไปแต่ไม่ผ่อนส่ง เกิดการขาดสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน จึงได้ปิดเพจลง และได้คืนค่าสินค้าให้กับลูกค้า แต่ว่าคืนยังไงก็ไม่หมด
นอกจากนี้ ยังมีหมายจับอีก 3 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดหล่มสักที่ 23/2566 ลงวันที่ 9 ก.พ.2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่จ.114/2566 ลงวันที่ 24 ส.ค.2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
หมายจับศาลอาญา 3279/2566 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
