กองปราบ เปิดปฏิบัติการทลาย “แก๊งหญิงเบื่อ” ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยมหาโหด ส่งเงินไม่ต่อเนื่อง 30 วัน โดน “ล้มรายวัน” ลูกหนี้ เผยนาทีถูกขู่ฆ่า

วันที่ 20 ก.พ.2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป., กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง (กก.สส.ภ.จว.ตรัง) และ สภ.กันตัง

ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 รายคือ 1.นายสมพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี 2.น.ส.จุรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี 3.นายสังคม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี 4.นายเจริญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี 5.น.ส.ยุพิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี และ 6.นางอารี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี

กองปราบ เปิดปฏิบัติการทลาย "แก๊งหญิงเบื่อ" ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยมหาโหด ส่งเงินไม่ต่อเนื่อง 30 วัน โดน "ล้มรายวัน"

กองปราบ เปิดปฏิบัติการทลาย “แก๊งหญิงเบื่อ” ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยมหาโหด ส่งเงินไม่ต่อเนื่อง 30 วัน โดน “ล้มรายวัน”

ข้อหา ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพอันเป็นกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต,

ข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย, กรรโชกทรัพย์, ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจด้วยการขู่เข็ญ, ทวงถามหนี้โดยการข่มขู่ การใช้ความรุนแรงทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงของลูกหนี้หรือผู้อื่น

สถานที่จับกุม พื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง 5 จุด พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย. 2566 กลุ่มประชาชนในพื้นที่ อ.กันตัง จ.ตรัง กว่า 30 คน ได้เดินทางมายัง สภ.กันตัง เพื่อร้องเรียนขอให้ช่วยเหลือพร้อมแจ้งความร้องทุกข์








Advertisement

กรณี “แก๊งหญิงเบื่อ” แก๊งเงินกู้นอกระบบ ได้ปล่อยเงินกู้โดยคิดอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซ้ำยังมีวิธีการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ใช้อาวุธกับลูกหนี้ ด้วยการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก กก.6 บก.ป. จึงสืบสวนคดีนี้ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ตรัง และ สภ.กันตัง

จากการสืบสวนพบว่า แก๊งหญิงเบื่อ มี นายสมพงษ์ เป็นหัวหน้า ซึ่งบุคคลรายนี้เป็นสาวประเภท 2 ทำหน้าที่เป็นนายทุน และปล่อยให้เงินกู้ให้ลูกค้า แก๊งหญิงเบื่อนี้มีแนวทางการเก็บเงินที่แปลกใหม่

โดยมีการเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าร้อยละ 20 โดยลูกค้าต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้เป็นจำนวน 30 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน กล่าวคือ หากลูกค้ามีการกู้ยืมเงิน จำนวน 10,000 บาท จะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยครั้งละ 400 บาท ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 วัน รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ 12,000 บาท

หากลูกหนี้ส่งเงินไม่ต่อเนื่อง 30 วัน นายสมพงษ์ ก็จะบังคับให้ลูกหนี้เริ่มการชำระใหม่ สำหรับเงินที่ชำระมาแล้วนั้น นายสมพงษ์ จะตัดยอดไว้ จำนวน 2,000 บาท แล้วคืนเงินที่เหลือให้กับลูกหนี้ เพื่อเริ่มชำระเงินใหม่

ซึ่งจะเรียกลักษณะนี้ว่า “ล้มรายวัน” ยกตัวอย่างเช่น หากชำระหนี้มาแล้ว 15 วัน รวมเป็นเงิน 6,000 บาท วันที่ 16 ไม่ได้ชำระเงิน นายสมพงษ์ จะตัดยอดดอกเบี้ยไว้ 2,000 บาท และคืนเงิน 4,000 บาท แล้วลูกค้าต้องชำระเงินใหม่วันละ 400 บาท ต่อเนื่องกันไปสามสิบวัน

จากการตรวจสอบพบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีของ นายสมพงษ์ กว่า 20 ล้านบาท และยังมีการแบ่งหน้าที่กันทำกับลูกน้องในลักษณะองค์กรอาชญากรรม โดยมีลูกน้องอีก 5 คน ที่ทำหน้าที่เก็บเงินและทวงเงิน คือ น.ส.จุรี, นายสังคม, นายเจริญ, น.ส.ยุพิน และ นางอารี

สภ.กันตัง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับและหมายค้นบุคคลที่เกี่ยวข้อง จนนำมาสู่ปฏิบัติการในวันนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.6 บก.ป. ได้สนธิกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ตรัง และ สภ.กันตัง เปิดปฏิบัติการ “ปราบปราบเงินกู้นอกระบบ เจ้าหนี้ “หญิงเบื่อ” ดอกเบี้ยโหด”

ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย ในพื้นที่ อ.กันตัง รวมทั้งสิ้นจำนวน 6 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้ง 6 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางนำส่ง สภ.กันตัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยมีของกลาง 6 รายการ คือ

  1. สัญญากู้ยืมเงินพร้อมเอกสารบัตรประชาชนลูกหนี้ จำนวน 90 ฉบับ (หลายรายการไม่มีการลงรายละเอียดยอดเงินเพียงให้ลูกหนี้ลงลายมือชื่อไว้)
  2. แบบฟอร์มสัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 50 ฉบับ
  3. ปฏิทินจดรายละเอียดการชำระเงินของลูกหนี้ จำนวน 1 แผ่น
  4. เงินสด จำนวน 55,396 บาท
  5. สมุดบัญชี จำนวน 9 เล่ม
  6. โทรศัพท์ จำนวน 7 เครื่อง

จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การ รับสารภาพ 3 ราย คือ น.ส.จุรี, นายสังคม และ นางอารี ปฏิเสธ 2 ราย คือ นายเจริญ และ น.ส.ยุพิน ภาคเสธ 1 ราย คือ นายสมพงษ์

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน หากมีข้อมูลหรือความเคลื่อนไหวของ กลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ ขอให้ติดต่อประสานงาน เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง

เพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามปราบปรามจับกุมเครือข่ายเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ของท่าน สร้างความสงบสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่และลูกหลานของท่านต่อไป ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. โทรศัพท์ 085-536-4636 อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

ขณะที่ นายนก (นามสมมติ) ชาว อ.กันตัง หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงปี 2562 หรือประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ตนนอนป่วย ติดเตียงอยู่ที่โรงพยาบาล ประมาณ 5-6 เดือน ภายหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถทำงานประกอบอาชีพได้ ทำให้ภรรยาตนต้องไปกู้ยืมเงินจากแก๊งนี้มาจำนวน 3,000 บาท

นายนก กล่าวต่อว่า โดยเป็นเบี้ยดอกรายวัน ต้องส่งดอกประมาณวันละ 300 บาท โดยตนก็ไม่ทราบรายละเอียดในการส่งผ่อนมากนัก เพราะว่าภรรยาเป็นคนจ่าย และส่งจ่ายมาตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่เงินต้นยังอยู่ครบ แต่เมื่อวันไหนที่ไม่ได้จ่าย เพราะไม่มีเงิน

นายนก กล่าวอีกว่า แก๊งนี้ก็จะทำการข่มขู่อาฆาตผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ให้ระวังตัวไว้ และหลังจากนี้ก็มีแก๊งนี้ประมาณ 6-7 คนเข้ามาที่บ้าน พร้อมกับสั่งให้คนที่มาด้วยเอาปืนลงมาด้วย แต่ตนก็ไม่ได้เห็นอาวุธปืน

นายนก กล่าวว่า แต่เพื่อนบ้านเห็นชัดเจนและเคยถูกแก๊งนี้นำอาวุธปืนลงมาข่มขู่ ตนรู้จักหัวหน้าแก๊งเงินกู้รายนี้เพราะเป็นคนในพื้นที่ รู้จักเขามาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ และที่ได้ไปกู้เพราะทราบจากปากต่อปากกันว่าปล่อยเงินกู้

นายนก กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาภรรยาเป็นคนทำงานคนเดียว เพราะตนป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถทำงานได้ โดยภรรยาทำงานโรงงานได้เงินวันละ 100 กว่าบาท แต่ต้องมาจ่ายดอกรายวันทุกวัน ก็ต้องพยายามหามาให้ บางวันไม่มีหรือเงินไม่พอก็ไม่ได้จ่าย แต่ต้องหามาจ่ายชดเชยย้อนหลัง

นายนก กล่าวต่อว่า ที่ทราบว่าเพื่อนบ้านรายอื่นเคยถูกขู่ฆ่ามาแล้วด้วยและชักปืนมาข่มขู่ รวมทั้งทำร้ายร่างกายด้วยการตบตี กระทั่งตนได้เดินเท้าด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ไปแจ้งความที่ สภ.กันตัง กลางวันแสก ๆ ระยะทาง 6-7 กิโลเมตร เมื่อช่วงเดือน ก.พ.66 เพราะรับไม่ได้และทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของแก๊งนี้แล้ว และได้ไปให้ปากคำทุกอย่าง

นายนก กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาชีวิตไม่เคยมีความสุขเลย เงินหามาได้ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวัน จนมาทราบว่าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งนี้ได้แล้ว ตนดีใจเพราะรอวันนี้มานานแล้ว และนึกว่าจะไม่มีวันนี้แล้ว จะไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายนก กล่าวว่า เพราะคนที่เดือดร้อนไม่ใช่มีแค่ตน แต่มีเป็นร้อย ๆ ราย วันนี้รู้สึกได้เลยว่าความยุติธรรมยังคงมีอยู่จริง คนจนยังมีลมหายใจ เพราะหากไม่จับกุมคนจนไม่รู้จะมีที่หายใจตรงไหนแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน