ทอยรับหลังเผาศพนุ่น ยังขับบีเอ็มไปดูร่างอีกรอบ ขอรับสิ่งที่ก่อ ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ แจ้งความเท็จ
จากเหตุการณ์นายศิริชัย หรือทอย อายุ 33 ปี ก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางน.ส.ชลลดา หรือนุ่น อายุ 27 ปี ภรรยาที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และไปเผาอำพรางศพในป่าสวนยางแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 22 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ควบคุมตัวนายศิริชัย ผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางศพของน.ส.ชลลดา ภรรยาสาวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 จุด จุดแรกภายในบ้านพักย่านเมืองทองธานีที่ก่อเหตุใช้ก้อนอิฐทุบหัวซ้ำอีกครั้งในบ้านจนเสียชีวิต ก่อนนำร่างใส่กระเป๋าขึ้นรถเก๋งเพื่อนำร่างไปเผาอำพรางคดีในป่าสวนยางที่ จ.ปราจีนบุรี
จุดที่ 2 ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านถนนแจ้งวัฒนะ ที่แวะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อนำไปเผาร่าง น.ส.ชลลดา จุดที่ 3 บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ ที่จอดรถแล้วลงมาทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลลดา จุดที่ 4 ในป่าสวนยางที่นำร่าง น.ส.ชลลดาใส่กระเป๋าขึ้นรถไว้ที่ด้านหลังเบาะท้ายรถ ก่อนนำไปเผาอำพรางคดี
นายศิริชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพัก สภ.ปากเกร็ด ว่า ขอยอมรับในสิ่งก่อไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะติดคุก 10 ปี หรือ 20 ปีก็ตาม ซึ่งตนรู้ตัวอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องโดนจับ ส่วนสาเหตุที่นำร่างภรรยาไปเผาตรงนั้น เพราะว่าเคยขับรถผ่านไปทางนั้นเป็นประจำ ตอนส่งแฟนไปทำงานที่ปอยเปต และหลังจากเผาร่างแฟนสาวเสร็จแล้วตนยังขับรถย้อนกลับไปดูอีกครั้งด้วย ก่อนจะกลับมาเข้าแจ้งความเรื่องภรรยาหายตัวไป
พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า หลังทำการสอบปากคำนายศิริชัย หรือ ทอย รักทอง ซึ่งให้การรับสารภาพแล้ว ตำรวจได้ควบคุมตัวนำไปฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ รวมทั้งข้อหาแจ้งความเท็จกับพนักงานสอบสวน
