ทนายบ้านอากู๋ แจงผู้ตายโดนคดีบุกรุก ไม่เกี่ยวคดีครอบครองปรปักษ์ โต้ทนายคู่กรณี ไม่ได้ใช้สื่อกดดัน ขอแสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต-อโหสิกรรมให้

กรณี น.ส.ภานุมาศ เป็น 1 ใน 5 เพื่อนบ้านบุกรุกบ้านอากู๋ ก่อเหตุจบชีวิตตัวเองในห้องน้ำบ้านพัก หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา เมื่อช่วงเช้า ( 26 ก.พ. 67) หลังจากญาติเห็นว่าขังตัวเองไว้ในห้องน้ำหลายชั่วโมง จึงปีนดูจนพบก่อเหตุดังกล่าว ต่อมาทนายฝั่งเพื่อนบ้านอ้างว่าเจ้าของบ้านใช้สื่อกดดันจนเครียด จนเกิดเหตุสลดนั้น พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ยุยง เพียงแค่ให้คำปรึกษาในเรื่องฟ้องร้องเท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ. 67 น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายความฝ่ายเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องการเสียชีวิตของอดีตคู่กรณีที่เข้าไปยึดของบ้านของลูกความ ก็รีบเดินทางมายัง สน.คันนายาว เพื่อสอบถามกับพนักงานสอบสวน โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยกับลูกความ และญาติของฝ่ายอดีตคู่กรณีแต่อย่างใด จึงขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนการที่ทนายความของคู่กรณีออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ทางลูกความได้ใช้สื่อมวลชนกดดัน จนทำให้เกิดผู้เสียชีวิตเกิดความเครียดจบชีวิตตัวเองนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง ไม่น่าจะเป็นการกดดันจนทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความเครียดก็ยังได้

สำหรับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มจากการที่ฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงได้แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 คน ที่เข้าไปยึดครองบ้านหลังดังกล่าว โดยในจำนวนนั้นมีผู้ตายอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ

เบื้องต้นมีกำหนดจะสั่งฟ้องในวันที่ 6 มีนาคมนี้ แต่หลังจากที่หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิต ทางพนักงานอัยการก็จะสั่งไม่ฟ้องกับผู้เสียชีวิตรายนี้ จำหน่ายออกจากคดีไป ในส่วนนี้เป็นคดีในภาคแรก

ต่อมาก็เกิดเรื่องราวภาค 2 ขึ้น เมื่อหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ออกคำสั่งครอบครองปรปักษ์กับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อทางฝ่ายเจ้าของบ้านตัวจริงทราบเรื่อง จึงมอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นเรื่องคัดค้านและฟ้องขับไล่

พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง โดยคิดเป็นค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี ซึ่งเป็นในส่วนของคดีแพ่ง ในส่วนของคดีอาญาทางเจ้าของบ้านตัวจริงได้ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับคู่กรณี น.ส.ศรีพรรณ รายนี้เพียงคนเดียว ซึ่งผู้ตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีในภาค 2 แต่อย่างใด

ตนขออโหสิกรรม ตนเชื่อว่าอากู๋ก็รู้สึกอย่างตน ขอแสดงความเสียใจต่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่คิดจะกดดัน หรืออะไรทั้งนั้น เพียงแต่ว่าทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเอง ตนก็ต้องรักษาสิทธิลูกความของตนที่สุดตามข้อเท็จจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน