ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ บุกรวบตัวการ ขโมยเหรียญคริปโต ความเสียหายกว่าล้านบาท สารภาพได้ข้อมูลมาได้อย่างไร ก่อนอำพรางการตรวจสอบ

วันที่ 7 มี.ค.2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.บก.สอท.4 นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นจับกุมตัว นายสิริพรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.719/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67

ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีใช้สำหรับตน

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สอท.4 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินดิจิทัล สกุล USDT (Tether) จำนวน 30,983 เหรียญ USDT ความเสียหายประมาณ 1,103,153 บาท จากบัญชี ไบแนน (Binance) ของผู้เสียหาย

จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบพยานหลักฐานน่าเชื่อว่า นายสิริพรชัย เป็นคนร้ายในคดี เนื่องจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิทัลพบว่า นายสิริพรชัยเป็นผู้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว

จึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่านายสิริพรชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง จ.พิษณุโลก จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายค้นที่ ค.103/2567 ลงวันที่ 6 มี.ค.2567

จากการตรวจค้นพบ นายสิริพรชัย ให้การเบื้องต้นว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าไปวางระบบคอมพิวเตอร์ให้กับผู้เสียหาย จึงทำให้ตนมีข้อมูลผู้ใช้งาน/รหัสผ่าน บัญชี ไบแนน (Binance) ของผู้เสียหาย

นายสิริพรชัย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันเกิดเหตุได้ลักลอบเข้าไปใช้งานบัญชีของผู้เสียหาย และทำการแปลงทรัพย์สินดิจิทัลของผู้เสียหายทั้งหมด เป็นสกุล USDT จำนวน 30,983 เหรียญ USDT และโอนไปยังที่อยู่กระเป๋า (Address wallet) ของบุคคลอื่น จากนั้นนำไปขายผ่านระบบ P2P เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสกุลบาท

นายสิริพรชัย กล่าวอีกว่า และโอนเงินดังกล่าวมายังตนเองและบุคคลอื่น เพื่ออำพรางการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองเป็นผู้ดำเนินการและเป็นผู้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินดิจิทัลของผู้เสียหายดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีใช้สำหรับตน

พร้อมทั้งตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือที่ใช้กระทำความผิด และเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน