รมว.แรงงานไทย หารือเกาหลี ขอนิรโทษกรรมผีน้อยกว่า 1.5 แสนคน พร้อมขยายตลาดแรงงานถูกต้องหมาย 4 เมืองใหญ่การเกษตร

วันที่ 14 มี.ค.67 ที่ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการจ้างงานของประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) ว่า

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแรงงานคนไทยมาทำงานในประเทศเกาหลีทั้งถูกและผิดกฎหมายจำนวนมาก โดยตัวเลขแรงงานไทยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีมีประมาณ 150,000 คน ถือเป็นสัดส่วนที่มากสุดในเกาหลี โดยการหารือกับ รมว.แรงงานเกาหลีนั้น ทางกระทรวงแรงงานไทยเสนอให้นิรโทษกรรมแรงงานไทยผิดกฎหมายที่อยู่ในเกาหลี ให้มีการทดสอบฝีมือและขึ้นทะเบียนแรงงานในปรเทศเกาหลีเลย เพื่อลดค่าใช้จ่ายของนายจ้างและแรงงาน เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาอยู่เกาหลี 3-4 ปี ทักษะการทำงานดีและภาษาดีอยู่แล้ว

นายพิพัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นท่าน รมว.แรงงานเกาหลี ระบุว่า เรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับทางกระทรวงยุติธรรมของเกาหลี จึงต้องหารือถึงความเป็นไปได้ในข้อเสนอดังกล่าว ประเด็นต่อมาคือ การนำเข้าแรงงาน E7 E8 และ E9 ซึ่งทางเกาหลีขอให้เราพัฒนาเรื่องของภาษาให้แก่แรงงาน ให้สื่อสารกับนายจ้างได้ ส่วนเรื่องทักษะฝีมือนั้นเขามีความมั่นใจในแรงงานของเราอยู่แล้วว่าสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมภาคเกษตรและการประมง ก็มีการหารือกับตัวแทนหลายอำเภอที่มีความต้องการแรงงานไทยมาทำงาน ซึ่งมีการลงนามความร่วมมือไปแล้วใน 1 อำเภอของเกาหลี คือ จินอัน จังหวัดซอลลาบุก และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของสำนักอัยการของไทยอีก 4 อำเภอ ได้แก่ ซังฮึง โคฮึง ชังซอง วันโด ในจังหวัดชอลลานัม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิ้นเดือนนี้

เมื่อถามถึงแนวโน้มความเป็นไปได้ในการนิรโทษกรรมผีน้อยเกาหลี นายพิพัฒน์กล่าวว่า ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้ทางเกาหลีก็มีความหนักใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทางกระทรวงแรงงานฯ แต่เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเขาจะนำเรื่องนี้ไปหารือกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ผ่านมาเรายังไม่เคยดำเนินการแบบนี้ ทั้งนี้ ในปี 2566 รัฐบาลไทยได้นำแรงงานผิดกฎหมายกลับประเทศประมาณ 7 พันคน เรื่องนี้ก็ทำให้ทางรัฐบาลเกาหลีมีความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยให้ความร่วมมือในการนำผีน้อยกลับประเทศ

ถามต่อว่ากังวลหรือไม่ที่จะมีการนิรโทษกรรมผีน้อยเกาหลีซึ่งอาจจะทำให้มีผู้ที่เดินทางมาทำงานผิดกฎหมายมากขึ้น นายพิพัฒน์กล่าวว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่เดินทางมานั้นมาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย แต่มีการเปลี่ยนนายจ้าง จึงทำให้กลายเป็นผีน้อย ซึ่งผู้ประกอบการเองก็ไม่อยากมีแรงงานผิดกฎหมายอยู่ในมือ ดังนั้นเราจะต้องผลักดันให้มีการเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย

ในวันเดียวกัน นายพิพัฒน์พร้อมผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้าพบกับนายคิม ดงยอน ผู้ว่าการจังหวัดเคียงกี เพื่อหารือถึงการเปิดตลาดแรงงานไทยในเกาหลี พร้อมลงนามความเข้าใจในการส่งรายงานมาทำงานในประเทศเกาหลี








Advertisement

นายพิพัฒน์กล่าวว่า จังหวัดเคียงกี มีจำนวนประชากรมากที่สุดในเกาหลีใต้ประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งเปรียบเทียบกับประเทศไทยก็จะคล้ายกับกรุงเทพมหานคร โดยในวันนี้ได้มีการลงนามความเข้าใจระหว่างไทยและเกาหลีเพื่อความร่วมมือในการจ้างแรงงานไทย ให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อสร้างระบบความร่วมมือที่ใกล้ชิดบนพื้นฐานของหลักความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันและพยายามร่วมมือกันเพื่อความสัมพันธ์บนความเข้าใจระหว่างกัน 2.จังหวัดเคียงก็จะส่งเสริมการแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตราตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อขยายโอกาสการจ้างงานของแรงงานไทยในจังหวัดและจะให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลกลางเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ

3.กระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทย จะพยายามอย่างจริงจังและจัดเตรียมมาตรการดูแลแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อป้องกันการพำนักอาศัยผิดกฎหมายไม่มีผลผูกพัน และ 4.ทั้งสองฝ่ายไม่มีความรับผิดชอบทางกฎหมายใดๆ เพราะบันทึกการเจรจานี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน