หมอศัลยกรรม ชื่อดัง ร้อง ตำรวจไซเบอร์ หลังถูกสาวสวย หลอกลงทุนเทรดหุ้น หวังผลกำไร 44 ล้านบาท ช็อก ครึ่งเดือนสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท เผยปมพิรุธ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มี.ค.2567 ที่บก.สอท.1 นพ.สมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี นายแพทย์ศัลยกรรมความงามชื่อดัง ร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เนื่องจากถูกแก๊ง Hybrid scam หลอกให้หลงเชื่อเเล้วลงทุน จนเสียค่าลงทุนไปกว่า 12 ล้านบาท ไม่สามารถถอนคืนได้

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์การลงทุนหุ้นต่าง ๆ มากกว่า 20 ปี แต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่าหุ้นในประเทศไทยย่ำแย่และราคาตกอย่างหนัก จึงตัดสินใจที่จะลงทุนหุ้นอื่น ๆ โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศ เลยค้นหาในเฟซบุ๊กจนเจอกลุ่มชักชวนลงทุนหุ้นต่างประเทศ

หมอศัลยกรรม ชื่อดัง ร้อง ตำรวจไซเบอร์ หลังถูกสาวสวย หลอกลงทุนเทรดหุ้น หวังผลกำไร 44 ล้านบาท ช็อก ครึ่งเดือนสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

หมอศัลยกรรม ชื่อดัง ร้อง ตำรวจไซเบอร์ หลังถูกสาวสวย หลอกลงทุนเทรดหุ้น หวังผลกำไร 44 ล้านบาท ช็อก ครึ่งเดือนสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงสมัครเข้าไปแล้วปรากฏว่า มีเฟซบุ๊กแพทย์คนพูดคุยกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศ และตนเห็นว่าเป็นอาชีพเดียวกัน จึงตัดสินใจพูดคุย จากนั้นแพทย์คนดังกล่าว จะส่งข้อมูลของตนให้หญิงสาวคนหนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะทักไลน์มาโดยใช้ชื่อว่า “จิน” ซึ่งหญิงสาวคนนี้นั้นอ้างว่า เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับระบบการลงทุนในแอปพลิเคชัน “CLC GROUP”

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตอนแรกตนยังไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะยังไม่เชื่อมั่น จนกระทั่งหญิงสาวคนนี้พยายามพูดคุยเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว และถามเรื่องศัลยกรรมหน้า และดวงตากับตน ซึ่งเห็นว่าโปรไฟล์หญิงคนนี้สวยและน่ารัก

นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จึงตัดสินใจที่จะพูดคุยซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้มีการจีบในเชิงชู้สาว ซึ่งหญิงคนนี้ก็มีความรู้เรื่องของการลงทุนเป็นอย่างดี ก่อนที่หญิงคนนี้จะดึงตนเข้ากลุ่มไลน์ร่วมลงทุน ซึ่งในกลุ่มดังกล่าวมีคนอยู่ในนั้นประมาณ 200 กว่าคน

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นต่างประเทศแห่งหนึ่ง โดยลงทุนครั้งแรกไปจำนวน 200,000 บาท ปรากฏว่า ได้กำไรกลับคืนมาถึงแสนกว่าบาท ซึ่งเห็นว่ามีเงินเข้าในระบบจริง กราฟในหุ้นก็มีความเคลื่อนไหวจริง จึงมองว่าเชื่อถือได้

อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากจะต้องมีการเพิ่มค่าดำเนินการเข้าไป แต่ตนก็ลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ จนถึง 12 ครั้ง ในช่วงระหว่างตั้งแต่ช่วง 16 ม.ค.-29 ก.พ.เป็นเวลาเดือนครึ่ง รวมมูลค่าเงินลงทุน 12 ล้านบาท ซึ่งในระบบได้กำไรกว่า 44 ล้านบาท ผ่านการโอนเข้าบัญชีบุคคล 4-5 บัญชี

ยอมรับว่า ตนก็เอะใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล แต่ด้วยความที่น้องจินพูดคุยอธิบายอ้างว่า เป็นการโอนเพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ และไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ตนเลยเชื่อสนิทใจ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ไปตรวจสอบกราฟหุ้นต่างประเทศตัวจริง ซึ่งเห็นว่า กราฟตัวจริงกับกราฟในแอปฯมีตำแหน่งที่ไม่ตรงกัน จึงทำให้เริ่มเอะใจ และได้เสียค่าภาษี 4.8 ล้านบาท และค่าบริการ 3.6 ล้านบาท เพื่อดำเนินการถอนเงิน แต่ก็ไม่สามารถถอนได้ เพราะน้องจินบอกว่า ต้องเสียค่าค้ำประกันอีก 4.8 ล้านบาท

จากนั้นตนได้ไปสอบถามกับเพื่อนที่เป็นโบรกเกอร์ ซึ่งบอกว่าการถอนเงินไม่จำเป็นต้องมีค่าค้ำประกัน เพียงแค่ยืนยันตัวตนกับโบรกเกอร์เท่านั้น จึงทำให้ตนไม่โอนเงินค่าค้ำประกันและเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอก

อีกทั้งตนได้หาข้อมูลจนพบว่า คุณหมอที่ปรากฏในเฟซบุ๊กที่ทักมาหาตนนั้น เป็นเฟซปลอม และหมอตัวจริงไม่รู้เรื่องกรณีนี้มาก่อน อีกทั้งหมอตัวจริงได้ไปแจ้งความแล้วที่ จ.ระยอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าถูกปลอมเฟซ และนำภาพไปใช้

จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตนตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าตนถูกหลอกร่วมลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ ผ่านการชักชวนพูดคุยให้หลงเชื่อสนิทใจ

ทั้งนี้ ตนขอเตือนประชาชนว่า “อย่าหลงเชื่อ อย่าคิดว่าตนเองแน่ ขนาดตนมีประสบการณ์ลงทุนกว่า 20 ปี ก็ไม่พ้นตกเป็นเหยื่อหลอกลงทุน”

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า เคสนี้นั้นจะให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการประสานงานกับตำรวจ สน.ประชาชื่น เพื่อนำสำนวนคดีมาตรวจสอบทางเทคโนโลยีให้ได้ตัวคนร้ายต่อไป

และเตือนว่า การลงทุนกับหุ้นต่างประเทศขอให้ระมัดระวังให้ดี ควรจะต้องลงทุนกับหุ้นที่ได้รับการรับรองโดย กลต. โดยเฉพาะหุ้นในประเทศเท่านั้น อีกทั้งฝากเตือนถึงประชาชนว่า ให้ระมัดระวังการลงทุนทางออนไลน์หรือการถูกชักชวนให้ลงทุน การทำธุรกรรมต่าง ๆ ทางออนไลน์

ไม่แนะนำให้รีบโอน ควรตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะการลงทุนแบบกลุ่ม ควรระมัดระวังบัญชีให้ดี ถ้าเห็นบัญชีเป็นชื่อบุคคลทั่วไป ให้มองข้ามไปได้เลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน