ทนายตั้ม ส่งหลักฐานเว็บพนันถึงมือ บิ๊กเต่า ให้จับตาสัปดาห์หน้ามีทีเด็ด จรูญเกียรติ ยันไม่เคยเลียตูดนาย ไม่ละเว้นใครหากทำผิด ทุกคนเล็กกว่ากรงขัง

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ที่บก.ปปป. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางนำหลักฐานเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงบิ๊กตำรวจ มามอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า หลังรับเอกสารจากทนายตั้ม พวกเรามีอาชีพตำรวจ ทำงานแบบตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เคยหนักใจที่จะทำคดีอะไร เพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องรับเรื่องจากทั่วประเทศอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องรับเรื่อง ไม่ต้องกลัวว่าที่นี่จะลำเอียง จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนเท่าเทียมกัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ต้องขอขอบคุณทนายตั้มที่นำข้อมูลมาให้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความสะอาดบ้านตัวเอง ถ้าตรวจสอบพบว่าบิ๊กตำรวจทำความผิด ก็ต้องบอกว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีคำนิยามว่ายศใหญ่ยศเล็กทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนสามารถเดินเข้ามาได้ แค่หลักฐานอันเดียวก็สามารถจับนักการเมืองใหญ่ๆ ได้ วันนี้ทนายตั้มนำหลักฐานมาให้ ตนก็ดำเนินการตามหลักฐานทุกขั้นตอน ยืนยันไม่มีข้อขัดแย้งอะไรทั้งนั้น บ้านเมืองต้องอยู่ด้วยกฎหมาย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยอีกว่า วันนี้หลังจากได้หลักฐานมาแล้ว จะตรวจสอบว่าเอกสารตรงนี้ถูกต้องหรือไม่ มีที่มาข้อเท็จจริงอย่างไร และพนักงานสอบสวนจะรบกวนทางทนายตั้มให้ไปชี้แจงเอกสารตรงนี้ก่อน เมื่อเอกสารมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง จะขยายผลไปตามเส้นทางการเงินต่างๆ ตามที่ทนายตั้มร้องขอ และจะดำเนินการควบคู่กันไป เพราะหลักฐานที่มาก็เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครสามารถบิดเบือนประเด็นได้ อยากให้สบายใจตรงนี้

ส่วนประเด็นที่บอกว่าตำรวจมีข้อมูลนี้อยู่แล้วหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ยังไม่เห็นเอกสารของทนายตั้ม จึงไม่สามารถแจ้งได้ว่าตำรวจมีอยู่แล้วหรือไม่ และไม่อยากพูดถึงคดีก่อนๆ จะพูดถึงเฉพาะเรื่องวันนี้ มีหน้าที่อะไรก็ทำตามหน้าที่ เรื่องเส้นเงินต่างๆ เป็นเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิดก็คือผิดถูกก็คือถูก

“ต้องบอกว่าผมเติบโตมาจากการทำงานโดยเฉพาะ ไม่เคยเลียตูดนาย เพื่อความเจริญก้าวหน้า ผมโตมาด้วยสองมือสองขาและสมองของตัวเอง ทำงานตามอุดมการณ์และตามความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้เป็นเด็กใครหรือคนอื่นๆ ทุกคนจะรู้ว่าผมทำงานเพื่อส่วนรวมมาทั้งชีวิต และจะอยู่ตรงนี้เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรม”

เมื่อถามว่าถ้าพบบิ๊กตำรวจมีความผิด จะดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง ทุกคนเข้าได้หมด ใหญ่แค่ไหนก็ขังไม่ว่าจะเป็นยาจกหรือคุณนาย เราเป็นตำรวจ อิงตามข้อเท็จจริง ไม่มีใครช่วยใครเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่

ด้านทนายตั้ม เปิดเผยว่า พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเชื่อมั่นขึ้น และวันนี้หลักฐานที่นำมายื่นคือสเตทเม้นท์ของพิมพ์วิไล อยากให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินตามที่แถลงไปแล้วนั้น ตรวจสอบบัญชีทุกบัญชีเหล่านี้ว่าโอนกี่ครั้ง โอนไปเพื่ออะไร ทำไมถึงมีเส้นทางการเงินที่โอนไปยังบิ๊กตำรวจ ครอบครัวและนายตำรวจอีกหลายนาย เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่ออกมาแถลงเป็นข้อเท็จจริง

ทนายตั้ม กล่าวว่า ตอนนี้ต้องการให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด และหลังจากตรวจสอบสืบสวนแล้ว ถึงจะมาแจ้งความดำเนินคดีอีกครั้ง เพราะกลัวว่าถ้าแจ้งความดำเนินคดีตอนนี้ จะมีระยะเวลากระชั้นชิดแค่ 1 เดือน แล้วไม่มีความคืบหน้า วันนี้จึงให้รองเต่าได้ไปตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกเส้น ตามที่ตนได้มีการแถลงไปว่าเป็นของจริง โอนให้กับครอบครัวของบิ๊กตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ และโอนให้วัดจริงๆ ในส่วนของเรื่องส่วยก็มีใบเสร็จ สลิปโอนเงินก็ต้องการสอบสวนต่อไปว่าทำไมถึงต้องมีการโอนไปทุกเดือนแบบนี้

สำหรับประเด็นที่สมาคม ตนต้องบอกว่าสมาคมไม่ได้เกี่ยว แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่เป็นอุปนายกที่เพิ่งจะหมดวาระไป มีการรับเงินจากบัญชีม้าสายเดียวกับบิ๊กตำรวจหลายคน เห็นว่ารับมาตั้งแต่ปี 2020 และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเดือนละ 30,000 ถึง 50,000 บาท จึงมีคำถามว่าทำไมต้องจ่ายเป็นรายเดือน จ่ายเพื่อที่จะปิดบังเรื่องไม่ดีอะไรไปหรือไม่

ทนายตั้ม กล่าวว่า ส่วนเรื่องสายลับที่ให้ข้อมูลกับตนมา ก็เป็นตำรวจ แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ซึ่งเขาไม่โอเคกับระบบจึงออก แต่ข้อมูลที่เขาให้มาก็คือเป็นเลขบัญชีส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนมีทีมในการทำและต้องให้ทางตำรวจที่รับเรื่องวันนี้เป็นคนขยายผลต่อ หากพบว่าเป็นข้อเท็จจริง ก็ต้องไปขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางธนาคารและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“อยากให้จับตาดูสัปดาห์หน้า ว่าผมจะทำอะไรต่อไป แต่บอกไว้ก่อนว่าวันเสาร์นี้จะไปทำบุญที่วัดหนึ่งตอน 10 โมงเช้า ถ้าว่างขอเรียนเชิญนักข่าวทุกคนให้ไปอนุโมทนาบุญด้วย”

ทนายตั้ม กล่าวว่า ตอนนี้ตนมั่นใจในตัวของพล.ต.ต.จรูญเกียรติเพิ่มขึ้นเป็น 40 % จากที่เมื่อวาน 30 % เพราะต้องรอดูการทำงานก่อน

ทนายตั้ม บอกอีกว่า เรื่องความสนิทกับบิ๊กโจ๊ก แล้วแต่คนจะคิด ไม่ว่าตนจะมาจากทางไหน ผลประโยชน์ได้แก่ชาติหรือเปล่า เพราะถึงแม้ว่าตนกับบิ๊กโจ๊กสนิทกัน แต่ถ้าเขาทำผิด ตนก็ช่วยไม่ได้ ถ้ามีหลักฐานทำผิด ถึงตนจะหนักใจ หรือเสียใจแค่ไหน แต่ตนก็ต้องทำ

“อาทิตย์หน้าจับตาดูให้ดี ผมมีทีเด็ดอยู่อาทิตย์หน้า” ทนายตั้มกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน