แจ็กพอตเลย ตำรวจทางหลวง เรียกตรวจรถทะเบียนขาด พิรุธออก เช็กประวัติผงะ โยงคดี “เสี่ยหมาด” เจ้าของสนามไก่ชน คนนั่งมาด้วยมีหมายคดีอุ้มเรียกค่าไถ่
วันที่ 3 เม.ย.2567 พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. เข้าจับกุม นายสามารถ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี และ นายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานหรือรับของโจร”
และ นายอนุชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหล่มสัก ข้อหา “ร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้ที่จุดตรวจอยู่บริเวณ กม.83-84 ถ.พระราม 2 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

แจ็กพอตเลย ตำรวจทางหลวง เรียกตรวจรถทะเบียนขาด พิรุธออก เช็กประวัติผงะ โยงคดี “เสี่ยหมาด” เจ้าของสนามไก่ชน
ทั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณดังกล่าว สังเกตเห็นรถเก๋งคันหนึ่งแผ่นป้ายเสียภาษีประจำปีหมดอายุจึงเรียกตรวจสอบ แต่นายสามารถซึ่งเป็นคนขับ พร้อมนายอนุชาและนายสมชายที่นั่งโดยสารมาด้วยกัน กลับมีท่าทีพิรุธตื่นตระหนก
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ก่อนพบว่านายสามารถและนายสมชาย มีหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน คดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน หรือรับของโจร
- อ่านข่าว : จับแล้ว ‘สมชัย’ แก๊งอุ้มฆ่า ‘เสี่ยหมาด’ ซัดเจ๊อ้วนบงการ ไม่ยอมตอบเงิน 1.5 แสน
- อ่านข่าว : ‘เจ๊อ้วน’ คอตกเข้าคุก เผยปฏิกิริยา หลังรู้กู้ภัยนำศพ ‘เสี่ยหมาด’ มาโรงพักพอดี
สืบเนื่องมาจากคดีนายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาส หรือ เสี่ยหมาด อายุ 56 ปี เจ้าของสนามไก่ชนที่ อ.สวี จ.ชุมพร ที่ถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าฝังดิน ขณะที่นายอนุชาเองก็มีหมายจับในคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ในพื้นที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จึงทำการจับกุมทันที
จากการสอบสวน นายสามารถ ให้การยอมรับว่า ตนเป็นคนที่ติดต่อรับซื้อขายรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ของเสี่ยหมาด ก่อนนำไปขายต่อโดยพบว่ารถของผู้ตายถูกนำไปใช้ในพื้นที่ จ.สกลนคร ตามที่ปรากฏก่อนหน้านี้
ขณะที่ นายสมชาย ยอมรับว่า ตนเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้รับโอนเงินการซื้อขายรถยนต์ของเสี่ยหมาด
ส่วน นายอนุชา ก็ยอมรับว่า เมื่อปี 2565 เคยร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนไปทวงหนี้ จำนวน 3 ล้านบาท กับเจ้าของร้านกาแฟที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ แต่ไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนอุ้มจี้นำตัวของลูกชายเจ้าของร้านไปต่อรองให้ชดใช้เงิน โดยตนได้ค่าจ้างมาแค่ 30,000 บาท จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแต่ละท้องที่ดำเนินคดีต่อไป