ประชาธิปัตย์ รับ นักการเมืองหญิง สัมพันธ์ลับ พระมหาหนุ่ม เป็นสมาชิกจริง

ด่วน ประชาธิปัตย์ แถลงแล้ว ยอมรับ นักการเมืองหญิง มีสัมพันธ์ลับ พระมหาหนุ่มวัย 24 ปี เป็นสมาชิกจริง เตรียมตั้งกรรมการสอบ จ่อขับออก

แฟนเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์คลิปหนุ่มรายหนึ่งจับได้ว่า ภรรยาของตัวเองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ พระมหาหนุ่ม อายุ 24 ปี ซึ่งเป็น ลูกบุญธรรมของฝ่ายชายด้วย แต่ทั้งคู่ปฏิเสธบอกว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ต่อมาพระหนุ่มได้ลาสิกขา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 เม.ย.2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวฉาวกรณีถูกเปิดเผยว่ามีนักการเมืองสาว สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้สมัครสส. มีสัมพันธ์สวาทกับพระมหาหนุ่มวัย 24 ปี เจ้าอาวาสวัดดัง ที่เป็นลูกบุญธรรม และถูกสามีบุกจับได้ จนกลายเป็นข่าวฉาว

นายราเมศ กล่าวว่า จากกรณีการสอบถามว่า อดีตผู้สมัครสส.ประชาธิปัตย์ มีสัมพันธ์กับพรรค เราได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา มีสื่อโทรศัพท์มาสอบถาม มีคนแจ้งมา ทางพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามในทันที

• อ่านข่าว : คนสนิทแฉเพิ่ม! เคยเจอ นักการเมืองหญิง ถวายน้ำปานะให้พระหนุ่ม จนเตียงสั่น
• อ่านข่าว : ลาสิกขาแล้ว พระหนุ่ม สัมพันธ์ลับ อดีตนักการเมืองหญิง หลังถูกแฟนจับได้

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนเป็น 1 ในกก.บห.พรรค ได้รายงานให้หัวหน้าพรรคทราบในทันที เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ที่คนเป็นสมาชิกพรรค ต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม ศีลธรรม และความเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของการเป็นสถาบันครอบครัว

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ทั้งหมดเป็นสาระสำคัญของข้อบังคับพรรค เขียนไว้ชัดว่าต้องทำตามในกรอบจริยธรรมข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่องแล้ว ก็มีบัญชา และคำสั่งให้ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง โดยมีตน และอดีตสส. รวม 3 คน มาสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวให้กระจ่างชัด

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า เมื่อตรวจสอบพบเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในปัจจุบัน ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ตรวจสอบพบเป็นอดีตผู้สมัครพรรคจริง หลังเสร็จเลือกตั้ง ก็ไม่ปรากฏว่าได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคแต่อย่างใด

นายราเมศ กล่าวว่า ลึกลงไปปัจจุบัน ตรวจสอบมีรับตำแหน่งในพรรคหรือไม่ ก็พบว่าไม่มีตำแหน่งใด ๆ วันนี้จะสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเล็กน้อย สอบถามคนที่เกี่ยวข้องอีกให้เสร็จสิ้นใน 3 วัน และรายงานต่อกก.บห. เพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งโทษฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค ขัดต่อจริยธรรม ศีลธรรม ก็จะมีโทษถึงขั้นให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค