ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 2 ปี 20 วัน อานนท์ นำภา คดี 112 จัดกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ ลานหอศิลปฯ เมื่อปี 2564

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1676/2564 พนักงานอัยการ สำนักงานอาญากรุงเทพใต้ ยื่นฟ้องนายอานนท์ นำภา ทนายความ และนักเคลื่อนไหว ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 , พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง

จากกรณีจำเลยจัดการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ 2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2564

ศาลพิเคราะห์พยานคู่ความทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่า พยานโจทก์ทั้งผู้ที่ได้ยินได้ฟังจำเลยกล่าวปราศรัยในวันเกิดเหตุและที่ได้ทราบและอ่านคำกล่าวปราศรัยของจำเลยในภายหลัง ล้วนเบิกความให้ความเห็นสรุปรวมว่า จำเลยกล่าวใส่ความสถาบันว่า นำเอาทรัพย์สินสาธารณะของประชาชนใช้ร่วมกันไปเป็นของตนเอง จำเลยวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันและออกมาเรียกร้องให้นำเข้าวัคชีน แต่จะมีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นหรือไม่ ไม่อาจถือตามความเข้าใจของจำเลย ซึ่งเป็นผู้กล่าวเองเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อความคำปราศรัยของจำเลยตามแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวถึงสถาบันโดยตรง

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9 , พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ , พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียงฯ

ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบัน จำคุก 3 ปี ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 เดือน

ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับ 150 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3

คงจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้จำคุก 2 ปี ฐานร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 20 วัน ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาท คงจำคุกรวม 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท

ให้นับโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 2841/2566 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 56/2567 ของศาลอาญา ริบเครื่องปั่นไฟ จำนวน 1 เครื่อง ลำโพง 8 ตัว พาวเวอร์แอมป์ 1 เครื่อง เครื่องผสมสัญญาณเสียง 1 เครื่อง เครื่องรับสัญญาณไมโครโฟน 1 ตัว และไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” รายงานว่าปัจจุบันนายอานนท์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อยู่ในคดี ม.112 รวม 3 คดีด้วยกัน รวมโทษจำคุกหลังลดหย่อนของทั้ง 3 คดีแล้วอยู่ที่ 10 ปี 20 วัน ทั้งนี้ อานนท์ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการปราศรัยและโพสต์ข้อความในช่วงปี 63-64 รวมทั้งสิ้น 14 คดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน