อย.เตือนสั่งซื้อ ครีมเถื่อน ออนไลน์ 199 บาท สาวใช้ 3 วันหน้าพัง โดนบล็อก-ปิดเฟซหนี แนะเลือกร้านน่าเชื่อถือ ร้านที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ทางบริษัทครีมจะโอนเงินค่าครีมมาคืนแค่นั้นเองเหรอ และยังมาว่าเราใช้ครีมมั่วไม่ถามทางร้าน อย่างนี้ก็ได้เหรอ ศคบ. และโหนกระแสต้องเข้ามั้ย หน้าพังเกินรับสภาพไม่ไหวใครพาไปร้องเรียนหน่อย ถ้ามาเจอสภาพหน้าจริงรับไม่ได้จริงๆๆดำทั้งหน้า ทุเรศมากและมาโทษเราว่าใช้ผิดวิธี

ลูกค้าคนอื่นไม่เห็นมีใครเป็น มีเราเคสแรกและถ้าแพ้ครีมต้องแพ้ตั้งแต่วันแรก และรู้ว่าแพ้จะยังใช้มาอีกถึง3 วัน เอ่อปรึกษาศคบ.ดีกว่าค่ะ” โดยครีมตัวนี้ขายในเฟซบุ๊ก มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1ในราคา 199 บาท จากราคาปกติ 690 บาท นอกจากนี้ มีภาพพบว่าบริเวณใบหน้าของผู้โพสต์มีรอยไหม้ที่แก้มทั้ง 2 ฝั่ง มีตุ่มคล้ายตุ่มฝีขึ้นบริเวณหน้าผาก

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบขอรายละเอียดจากผู้เสียหาย

พบเป็นเครื่องสำอาง 2 รายการ บรรจุอยู่ในกล่องสีทองและสีเงิน (ดังภาพ) ฉลากแสดงภาษาต่างประเทศ ไม่มีภาษาไทยทั้งที่กล่องและขวดผลิตภัณฑ์ ไม่พบการจดแจ้งเครื่องสำอาง ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เพจเฟซบุ๊กที่ขายเครื่องสำอางนั้น ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว เนื่องจากบล็อกผู้เสียหายและเปลี่ยนชื่อบัญชีไปแล้ว

ภก.วีระชัย กล่าวว่า ย้ำเตือนถึงการซื้อเครื่องสำอางทางออนไลน์ ควรเลือกซื้อสินค้าจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ หรือร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว เพราะหากใช้แล้วเกิดปัญหาสามารถติดตามย้อนกลับได้

ก่อนซื้อให้ตรวจสอบข้อมูลการได้รับอนุญาตที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ”, Facebook: FDAThai, Line@FDAThai และผลิตภัณฑ์ต้องแสดงฉลากเป็นภาษาไทย ระบุข้อความจำเป็นครบถ้วน ได้แก่ ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต เดือนปีที่หมดอายุ คำเตือน และเลขที่ใบรับจดแจ้ง

“ที่สำคัญขอให้ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง เพราะการแพ้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล โดยการทาเครื่องสำอางในปริมาณเล็กน้อยที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู แล้วทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง หากใช้แล้วมีความผิดปกติ เช่น แสบ ร้อน แดง ผื่นคัน ระคายเคือง ต้องหยุดใช้ทันที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์และนำผลิตภัณฑ์ที่สงสัยไปด้วย” ภก.วีระชัย กล่าวและว่า

หากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าผิดกฎหมายแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Line@FDAThai Facebook : FDAThai หรือ E-mail : [email protected] ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน