เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ โดยรอบพระบรมมหาราชวัง ยังคงมีประชาชนเดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงสายอากาศจะร้อนและอบอ้าวแต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อ ทยอยเข้าร่วมถวายสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย โดยในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เต็นท์ 28 โซนเหนือของจ.พังงา นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำผักเหมียงผัดไข่ ผัดฟักทอง เต้าส้อ มาร่วมแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ที่ท้องสนามหลวง
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า นำอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของจ.พังงา มาแจกให้กับประชาชนที่มาร่วมงานทั้ง ผักเหมียงผัดไข่ ผักท้องถิ่นขึ้นชื่อของจ.พังงา ที่เป็นอาหารขึ้นโต๊ะของพังงา มาผัดใส่ไข่แจกจ่ายให้กับประชาชน รวมทั้งผัดฟักทอง นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง สับปะรดพันธุ์ภูงา ที่มีรสชาติหวานกรอบขึ้นชื่อ ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่นำมามอบให้เพื่อแจกให้กับผู้มาร่วมงานประมาณ 700-800 ลูก รวมทั้งขนมเต้าส้อ ขนมขึ้นชื่อประจำจังหวัดพังงา 9,000 กล่อง มาแจกให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้กินกันอย่างอิ่มหนำ
ผวจ.พังงา กล่าวต่อว่า เมื่อตอนที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตรัสไว้ว่า “เสียใจได้ แต่อย่าละเลยหน้าที่” ทำให้เราต้องเดินตามรอยพระราชดำรัส เปลี่ยนความโศกเศร้าเป็นความรักความสามัคคี จึงนำอาหารมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมถวายสักการะพระบรมศพได้รับประทานกัน
“หลังพระองค์ท่านสวรรคต จ.พังงาได้จัดกิจกรรมทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลหลายกิจกรรม ทั้งสกรีนเสื้อ ย้อมเสื้อ ทำโบว์แจกจ่ายให้กับประชาชนในจังหวัด ซึ่งเราไม่ได้บังคับให้ประชาชนใส่เสื้อสีดำถ้าเขาไม่มี เราก็เอาโบว์ไปช่วยติดให้เขา” นายภัคพงศ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซุ้มอาหารของจังหวัดพังงาได้รับความสนใจจากประชาชน โดยทุกคนต่างต่อแถวเพื่อรอชิมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดพังงากันเป็นจำนวนมาก
