เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มี.ค. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงจับกุมเครือข่ายโจรกรรมรถยนต์ ผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.นายชานนท์ ชนะรัตนหิรัญ อายุ 52 ปี ข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร 2.นายยงยุทธ เหล่าสุขสถิตย์ อายุ 57 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 608/2561 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2561 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร) 3.นายประยูร ซอหนองบัว อายุ 38 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 607/2561 ลง วันที่ 27 มีนาคม 2561 ข้อหาลักทรัพย์, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำความผิด ตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร)
พร้อมของกลาง 1.รถยนต์ยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น E250 CGI COUPE สีเทา ทะเบียน 3 กส 6528 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 1.7 ล้านบาท (ยานพาหนะที่ถูกโจรกรรม) 2.รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน ฐร 91 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน (ยานพาหนะที่ถูกโจรกรรมและใช้หลบหนี) 3.กุญแจปลอมรถยนต์ เมอร์เซเดส เบนซ์ ที่ใช้หลอกผู้เสียหาย จำนวน 1 ชุด 4.กุญแจที่ทำขึ้นสำหรับลักทรัพย์รถยนต์ ฮอนด้า จำนวน 1 ชุด 5.แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 9 คู่ หรือ 18 แผ่น 6.โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30 น. คนร้ายเข้าไปลักทรัพย์รถยนต์ยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น E 250 CGI COUPE สีเทา หมายเลขทะเบียน 3 กส 6582 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดไว้บริเวณเต็นท์ เค ออร์โต้คาร์ ถนนเลียบด่วนรามอินทรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง โดยใช้กุญแจกดรีโมทรถเบนซ์ปลดล็อกรถ แล้วขับหลบหนีไป ตามถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 21
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายพบรถยนต์ก่อนขึ้นสะพานพระราม 9 กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.1 ติดต่อขอซื้อรถยนต์เบนซ์ รุ่น E 250CGI COUPE สีเทา ซึ่งเป็นรถผิดกฎหมายราคา 440,000 บาท จากนายตี๋ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยนายตี๋ส่งข้อมูลหมายเลขตัวรถมาให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าตัวเลขตรงกับรถยนต์คันที่ถูกคนร้ายโจรกรรม ก่อนติดต่อกับนายโส ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ให้นำรถมาดูที่บริเวณถนนทางเข้าสวนสยาม สถานที่จับกุม เมื่อไปถึงพบนายพรถวัลย์ หรือโส ช่วยรอด และนายเฉลิมชัย หรือแดง
โดยนายพรถวัลย์ บอกว่าตนเองเป็นนายหน้าและติดต่อซื้อรถกับนายชานนท์ ชนะรัตนหิรัญ ผู้ต้องหาที่ 1 กระทั่งนายชานนท์ขับรถยนต์ของกลางมายังบริเวณริมถนนสวนสยาม หน้าร้านโลตัสเอ็กเพรส แขวงคันนายาว เขตคันนายาว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและขอตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พบหมายเลขตัวรถยนต์เป็นคันเดียวกันกับที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไป
จากการสอบสวนนายชานนท์ แจ้งว่า รับรถคันดังกล่าวมาจากนายยงยุทธ หรือเฮีย เหล่าสุขสถิตเจ้าของเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง SJ CAR CENTER ซึ่งนายยงยุทธ ส่งรถยนต์คันดังกล่าวมาขายให้ในราคา 160,000 บาท และนายชานนท์ขับรถยนต์คันดังกล่าวมา เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายชานนท์ ผู้ต้องหา และรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายยงยุทธ
ต่อมาจากการสืบสวนขยายผลพบว่า นายประยูร เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์เบนซ์ รุ่น E 250 ไปขายให้นายยงยุทธ นอกจากนี้ยังพบว่า นายประยูรเคยก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า โดยผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.ห้วยขวาง กระทั่งจับกุมได้ที่ จ.ตรัง
จากการสอบสวน พบว่าผู้ต้องหาทำทีไปขอซื้อรถยนต์เป้าหมายและขอทดสอบรถ เมื่อทดสอบเสร็จแล้วจึงสับเปลี่ยนกุญแจปลอมรถเบนซ์ที่เตรียมมาให้เจ้าของเต็นท์รถไป จากนั้นจึงเก็บกุญแจตัวจริงไว้ และกลับมาโดยเอากุญแจจริงที่แอบลักไป มาก่อเหตุลักทรัพย์รถเบนซ์คันดังกล่าว
ส่วนรถยนต์ฮอนด้า ได้ออกอุบายกับช่าง ทำกุญแจรถยนต์บอกว่าเจ้านายให้มาปลดล็อกรถ มีเหตุเร่งด่วนและทำกุญแจรถขึ้นมาใหม่ ขณะผู้เสียหายจอดรถไว้ที่คอนโดเบล ย่านพระราม 9 ก่อนจะลักเอารถฮอนด้า คันดังกล่าวไป
ด้าน น.ส.กนกลัดดา โสภาวาง อายุ 24 ปี เจ้าของรถฮอนด้า เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ หลังติดตามรถกลับคืนมาได้ เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ได้รถคืนเพียง 2 วันเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุตนจอดรถไว้ที่คอนโดและลงมาจะไปธุระก็ไม่พบรถ จึงเข้าแจ้งความและเป็นความหละหลวมของรปภ.ที่ให้รถออกไปได้
ขณะที่นายวิโรจน์ ทศในธาดา อายุ 60 ปี เจ้าของเต็นท์รถที่ถูกคนร้ายเข้ามาทำทีเป็นขอซื้อรถแล้วมีการสับเปลี่ยนกุญแจ ย้อนกลับมาขโมยภายหลัง เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ติดตามรถมาได้ ก่อนเกิดเหตุคนร้ายทำทีว่าจะมาซื้อรถและขอทดลองขับ วันนั้นวุ่นๆ อยู่ไม่ทันดูว่าเป็นกุญแจของรถคันอื่น ไม่ใช่คันที่คนร้ายลองขับ กระทั่งรถหาย ต่อจากนี้คงต้องทำที่ล็อกล้อรถทุกคัน เพื่อป้องกันไว้
ขอบคุณ คลิปยูทูปจาก Summapi TV
