เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ ควบคุมตัว พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หรือสิทธิโชติ ศรีสวัสดิ์กุล อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสารวัตรจราจรกลาง มาจากบ้านพักย่านบางซื่อ กทม.
ซึ่งพ.ต.ท.สุรศักดิ์ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1073/2559 ลงวันที่ 3 มิ.ย.2559 ในกรณีตรวจพบเบาะแสข้อมูลการทุจริต “เงินรางวัลส่วนเเบ่งของการตรวจจับรถบรรทุกและรถยนต์ที่มีควันดำบนท้องถนน เมื่อระหว่างเดือนตุลาคม 2540 ถึงเดือนเมษายน 2541” ในพื้นที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
หลังศาลมีความเห็นชี้มูลว่ามีความผิดจริงในปี 2555 และได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต หรือตามมาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท
นายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ กล่าวว่า กรณีอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ในการตรวจจับรถยนต์และรถบรรทุกที่มีควันดำที่วิ่งบนท้องถนน โดยทางเจ้าหน้าที่หากตรวจพบและตรวจจับได้ซึ่งหน้า ในกรณีที่ 1 ทางเจ้าหน้าที่จะได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ของเงินรางวัลนำจับและอีก 50 เปอร์เซ็นต์ เอาเงินรางวัลค่าปรับนำจับเอาเข้าให้หลวง
หรือในกรณีที่ 2 หากมีผู้แจ้งเบาะแสชี้นำจับเพิ่ม ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลส่วนแบ่ง 35 เปอร์เซ็นต์ ของเงินรางวัลนำจับ ซึ่งในกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้รับแจ้งร้องเรียนว่าพบเบาะแสในการทุจริตเงินรางวัลสินบนนำจับดังกล่าว อันเป็นเท็จ ของผู้แจ้งเบาะแสเพิ่มเติมขึ้นมาในส่วน 35 เปอร์เซ็นต์ และทางเจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่จะได้ส่วนแบ่ง 35 เปอร์เซ็นต์ เข้าในข้อมูล
ส่วนกรณีที่ 2 มีการสืบสวนสอบสวนในทางลับแล้วไม่พบผู้แจ้งเบาะแสที่แท้จริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้ได้ทำรายงานเข้าไปอันเป็นเท็จ จึงทำให้ทางภาครัฐสูญเสียรายได้ส่วนต่างไปเป็นเงิน 2 ล้านกว่าบาท โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบและนำข้อมูลต่างๆ พร้อมผู้กระทำความผิดส่งฟ้องศาลอาญา แต่ทางผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้มารายงานตัวต่อศาลและมีพฤติกรรมหลบหนี
จนกระทั่งทางชุดสืบสวนของทาง ป.ป.ช.ติดตามสืบทราบว่านายตำรวจดังกล่าวได้หลบไปอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งย่านบางซื่อ จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะหมดคดีความในวันที่ 1 เมษายน 2561 นี้
