กรณีชายแต่งกายครึ่งท่อนระบุว่าเป็นตม.ดอนเมือง เมาเบ่งในร้านข้าวต้มจนมีเหตุวิวาท ต่อมาออกจากร้านและกลับมาพร้อมอาวุธปืน จนเป็นเหตุให้พนักงานร้านอาหารช่วยกันจับตัว ส่งตำรวจดำเนินคดี เหตุเกิดราวเที่ยงคืนของวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว แฉดาบจ่ายค่าข้าวต้มไม่ครบ ขาดไป 100 บาท ฉุนหักข้อมือเด็กเสิร์ฟ-สุดท้ายเจอแย่งปืน

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวทางบก.ตม.2 ตรวจสอบแล้วพบว่าชายคนดังกล่าวคือ ด.ต.ชัยยันต์ ระตะขันธ์ อายุ 51 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพฤติการณ์ตามที่ปรากฏตามคลิป และขณะนี้ถูกดำเนินคดี ที่สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

จากการตรวจสอบพฤติการณ์เบื้องต้น กับพงส.สภ.อ.เมือง ฉะเชิงเทรา ทราบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค.61 เวลา 00.30 น. ด.ต.ชัยยันต์เข้าไปรับประทานอาหารในร้านอาหาร “อาเหลียง” ในพื้นที่ อ.เมือง ฉะเชิงเทรา ซึ่งต่อมา ทางร้านคิดค่าอาหาร แต่ด.ต.ชัยยันต์ต่อรองขอลดราคา แต่ตกลงไม่ได้ ด.ต.ชัยยันต์จึงนำเงินมาจ่ายจนครบ แต่กลับพูดแสดงความไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้เกิดการวิวาทกับพนักงานในร้าน

ต่อมาทั้งสองฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ย ไม่เอาความกัน แล้วแยกย้ายไป หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ด.ต.ชัยยันต์กลับมาที่ร้าน โดยพกอาวุธปืนเหน็บไว้ที่ข้างเอวมาด้วย ทราบภายหลังเป็นอาวุธปืนของด.ต.ชัยยันต์เอง พนักงานร้านเห็นจึงแย่งปืนมาได้ แล้วเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ ต่อมาผู้เสียหายจึงเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดี ตามภาพที่ปรากฏทางสื่อ

ในส่วนของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ได้ดำเนินการทางวินัย โดย พ.ต.อ.อุกฤษ กัลยานมิตร ผกก.ฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รายงานว่าตั้งกรรมการสืบสวนทางวินัยฯ และด.ต.ชัยยันต์ได้รายงานตนต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาตามระเบียบ คู่ขนานไปกับการดำเนินคดีอาญาของพงส.แล้ว เพื่อนำพฤติกรรมทางคดี ไปประกอบการพิจารณาลงโทษทางวินัย รวมถึงพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมกำกับดูแล

พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 สั่งการให้ดำเนินการสอบสวนวินัยโดยเร็ว และจะไม่ละเว้นหรือช่วยเหลือโดยเด็ดขาด เนื่องจากเคยได้สั่งกำชับการปฏิบัติ โดยให้ข้าราชการตำรวจทุกนายรักษาวินัย และความประพฤติ ให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนโดยเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญ ที่ผบ.ตร.และผบช.สตม.เคยสั่งการกำชับไว้ และในการนี้ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ มีคำสั่งให้ ด.ต.ชัยยันต์มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.บก.ตม.2 ในทันทีแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา แจ้งข้อกล่าวด.ต.ชัยยันต์ ในความผิดฐาน พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว โดยการขู่เข็ญ พร้อมกันนี้ได้รายงานเหตุไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ของด.ต.ชัยยันต์ ทราบ เพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ให้กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด อย่างใกล้ชิด คอยสอดส่อง ดูแล ให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย โดยหากพบว่าตำรวจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองและสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด และจะต้องรับโทษหนักกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้อย่างแน่นอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน