ปริศนาคนที่ 7 เช็กอิน 5 คน แต่ถูกวางยาตาย 6 ศพ เจอคราบที่แก้ว พบ 2 วัตถุต้องสงสัย

วันที่ 16 ก.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอน 16.30 น. พบผู้เสียชีวิต 6 ศพ เป็นเวียดนาม เสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง ดูจากที่เกิดเหตุไม่มีการชิงทรัพย์หรือประทุษร้ายเกิดขึ้น รอชันสูตรพลิกศพ และพฐ.ดูว่ากินอะไรเข้าไปหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการปล้นทำร้าย ยังต้องพิสูจน์ทราบต่อไป สันนิษฐานว่าจะมีคนเวียดนามอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนที่ 7 เป็นผู้ต้องสงสัย จะทราบในเร็วๆ นี้ ตอนนี้ต้องรอชันสูตรศพและผลตรวจอาหาร

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่โรงแรมเข้าไปทำความสะอาดห้องพักชั้นที่ 5 เนื่องจากจะต้องเช็กเอาท์ในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้เช็กเอาท์จึงไปตรวจดู และไปพบผู้เสียชีวิต จึงรีบแจ้งผู้บริหาร ก่อนประสานตำรวจ จากนั้นเวลา 17.00 น. ฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเชิญเจ้าหน้าที่ พฐ.มาด้วย

ข้อมูลเบื้องต้น มีผู้ตาย 6 คนในห้อง อยู่โซนรับแขกด้านหน้า 4 ศพ ในห้องนอน 2 ศพ เป็นชาย 3 หญิง 3 ทั้งหมดเดินทางมาที่โรงแรมไม่พร้อมกัน ชุดแรกมาวันที่ 13 ก.ค. และอีกชุดมาวันที่ 14 ก.ค. โดยพักอยู่ที่ชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง พักชั้น 5 จำนวน 1 ห้อง แจ้งบุ๊กกิ้งมาทั้งหมด 7 คน เช็กอินในโรงแรม 5 คน แต่พบศพ 6 คน

จากการตรวจที่เกิดเหตุทั้งหมดพบว่า 4 ห้องที่พักชั้น 7 จะต้องเช็กเอาท์เมื่อวานตอนบ่าย แต่ไม่ได้เช็กเอาท์ และได้เก็บกระเป๋ามาลงไปรวมที่ห้องชั้น 5 สันนิษฐานว่าต้องรู้จักกัน แต่ไม่ได้เดินทางออกไป เพราะคนที่นัดหมายให้มารับไม่พบตัว

โรงแรมให้ข้อมูลว่า ไม่ได้ลงมาชำระค่าใช้จ่าย แสดงว่าลงมาจากชั้น 7 แล้วไปรวมตัวกันที่ชั้น 5 เชื่อว่าตายเวลา 13.53 นาที เพราะอาหารที่สั่งเป็นอาหารจานเดี่ยว 6 จาน สั่งเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) วางในห้องรับแขก และมีถ้วยเครื่องดื่มลักษณะคล้ายการผสมเครื่องดื่มอีก 6 ถ้วย วางอยู่ตรงที่จัดเตรียม 5 บนโต๊ะ 1 ถ้วย มีเศษตกค้าง 1 ถ้วย ตรงกับผู้ตาย 6 คน

เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนตรวจดูทั้งหมดไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือทำร้าย และรื้อค้นเพื่อมุ่งหวังต่อทรัพย์หรือไม่ ไม่พบบาดแผล ข้าวของยังอยู่ปกติ ไม่มีถ้วยชามแตก ส่วนประตูถูกล็อกจากด้านใน ไม่สามารถเข้าไปได้ แม่บ้านเข้าไปทางประตูด้านหลัง ไปตรวจถึงพบศพ

ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนนครบาลและ สตม. สรุปแนวทางสอดคล้องกันว่า คนที่ 7 ต้องตรวจพิสูจน์ก่อนว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่, ต้องเก็บรายละเอียดทั้งหมดของบุคคลทั้ง 6 และหากคนที่ 7 ไม่มี อะไรคือเหตุจูงใจในครั้งนี้ ต้องพิสูจน์หาสิ่งเหล่านี้ แต่กระเป๋าทั้งหมดได้ประสานสถานทูตแล้ว จะไปทำการตรวจพิสูจน์ว่ามีอะไรในกระเป๋าที่นำไปสู่การคลี่คลายคดีได้ แต่ข้อสรุปคือทั้งหมดไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่ถูกคนอื่นทำให้เสียชีวิต

โดยห้องพักชั้น 7 เปิดวันที่ 13 ก.ค. ที่เหลือวันที่ 14 ก.ค. แต่เช็กเอาท์วันที่ 15 ก.ค. สำหรับอาหารเป็นอาหารไทย แต่ยังไม่ได้กินเลย ห้องน้ำพบกระปุกชาถูกซื้อมา พร้อมน้ำเกลือแร่ 1 ขวด และน้ำผึ้ง 1 ขวด และเปิดเอามาใช้แล้ว มีรายเดียวที่มีแผลบนใบหน้า น่าจะล้มแล้วฟาดกับวัสดุของแข็งไม่ได้ถูกตี ตำรวจไล่กล้องตั้งแต่ลงเครื่องบินว่าเดินทางมายังไง ไล่กล้องทุกตัวของโรงแรม ไล่ไทม์ไลน์ทั้งหมด

มีบุคคลคนหนึ่งประสงค์ต่อชีวิตของบุคคลทั้ง 6 ต้องรอพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ มีบางคนพยายามมาที่ประตูแต่ไม่ถึง ก่อนล้มที่ประตูแล้วเสียชีวิต ต้องถามแม่บ้านว่าทำไมถึงเปิดประตูหน้าไม่ได้ อาจจะมีสายคล้องล็อกเอาไว้ จึงต้องเข้าทางประตูหลัง ซึ่งห้องสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ ลักษณะเป็นวิลล่า เป็นไปได้ที่คนร้ายจะใช้เส้นทางนี้หลบหนีออกมา ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไป

เชื่อว่าลงมือจากข้างใน แต่ลักษณะใดนั้นอยู่ระหว่างสืบสวน ส่วนไกด์ที่ได้รูปมา ไม่ตรงกับไกด์คนที่มาที่เกิดเหตุ เชื่อว่าน่าจะมารับแขกกลุ่มนี้ไปสนามบิน แต่มาแล้วติดต่อไม่ได้ มีวัตถุต้องสงสัย 2 อัน เป็นสแตนเลส 2 ขวด ไม่ใช่ของโรงแรม แต่อยู่ในห้องนี้ 2 ขวด ตอนนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้ามาเที่ยวทำไมต้องมาแค่วันเดียว คือมาวันที่ 14 ก.ค. เช็กเอาท์ 15 ก.ค. มาทำธุรกิจอะไรหรือไม่

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวว่า เก็บทุกอย่างที่เจอในห้องไปตรวจพิสูจน์ว่าเกิดจากพิษหรือไม่ ไม่มีร่องรอยต่อสู้ ไม่ได้ถูกทำร้าย ไม่มีการรื้อค้นทรัพย์สิน อาหารยังวางอยู่บนโต๊ะ มีแกะซีลอาหาร 2-3 จาน ส่วนที่เหลือยังไม่ได้แกะ พฐ.เก็บร่องรอยทั้งหมดไปตรวจสอบว่ามีส่วนประกอบที่เป็นพิษหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน