‘ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก’ จับมือกันสู้ ฟังคำสั่งอัยการ คดี รีดเงินอธิบดีกรมการข้าว มั่นใจเป็นผู้บริสุทธิ์ มีหลักฐานพร้อมสู้ อัยการเลื่อนสั่งคดีไป 28 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.67 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 3 นัดฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายศรีสุวรรณ จรรยา อดีตเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีต นักการเมือง พร้อมพวก รวม 5 คน เดินทางมาตามคำสั่งของอัยการ เพื่อฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ในคดีที่กลุ่มของพวกตัวเอง ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต

นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมารายงานตัวตามนัดเบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชนทราบว่าถูกแจ้ง 6 ข้อหา แต่ที่ทราบจากพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้มีเพียงแค่ 4 ข้อหา

แต่ได้รับรายงานว่ามีการเลื่อนฟังคำสั่งคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวน เพิ่งส่งสำนวนมาที่อัยการเมื่อไม่นานมานี้ และสำนวนมีจำนวนมาก ทำให้พนักงานอัยการ พิจารณาสำนวนไม่แล้วเสร็จ แต่ว่าตัวเองและภรรยาในฐานะ ผู้ต้องหาก็ต้องเดินทางมารายงานตัวตามนัด

โดยหลังจากนี้ตัวเองและภรรยา เตรียมที่จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการ เพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาตัวเองไม่ได้หารือพูดคุยกับกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น โดยเฉพาะนายยศวริศที่เจอกันเพียงครั้งเดียว

กระทั่งมาเจอกันในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และช่วงเวลาที่ผ่านมาตัวเองยังคงขึ้นศาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนที่เคยรับเรื่องไว้

แต่ส่วนของการร้องเรียนนักการเมือง ยอมรับว่าจะต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ อีกทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เพราะที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ตัวเองร้องเรียนไปแล้วได้รับการตรวจสอบ จนประสบความสำเร็จ ดังนั้นหลังจากที่ตัวเองถูกดำเนินคดีจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะส่วนตัวมองว่าเป็นผลมาจากการที่ตัวเองเดินสายร้องเรียน เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง

ด้านนายยศวริศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตัวเองได้รับข้อมูลว่าถูกดำเนินคดี 6 ข้อหา ซึ่งเมื่อวานนี้ให้ทนายความส่วนตัวไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่หากพนักงานอัยการมีคำสั่งเลื่อนก็มองว่าเป็นผลดีกับตัวเองและพวก เนื่องจากจะทำให้พนักงานอัยการมีเวลาพิจารณาสำนวนมากขึ้น

“ยืนยันตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์จนกล่าวศาลจะมีคำตัดสิน แม้จะถูกกล่าวหา แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนประเด็นกับนายศรีสุวรรณนั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องเคลียร์ใจกันเป็นการส่วนตัว ขอฝากบอกสื่อมวลชนว่าอีกไม่นานนี้ ผมเตรียมจะเเถลงข้อเท็จจริง ที่เป็นข่าวใหญ่ให้ประชาชนติดตาม” นายยศวริศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งหลังจากสัมภาษณ์แล้วเสร็จทั้งคู่จับมือกัน และบอกว่าจะสู้ไปด้วยกัน ให้กำลังใจกันก่อนจะเดินขึ้นไปพบพนักงานอัยการ

ด้านนายประยุทธ เพชรชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต นัดฟังคำสั่งคดีที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก รวม 5 คน

ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเรียกทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการไม่ส่งเรื่องร้องเรียน ว่าได้รับทราบจาก นายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปราบการทุจริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการรับผิดชอบคดีนี้ แจ้งว่าคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงให้ไปฟังคำสั่ง ในวันที่ 28 ส.ค.67 เวลา 09.00น.

ขณะเดียวกัน นายรชต พิจารณาเเล้วเห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนียื่นขออนุญาต ต่อนายสุรพันธ์ กิจพ่อค้า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ขอไม่ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด เเละปล่อยชั่วคราวไป โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีคำสั่งอนุญาตไม่ฝากขัง ให้ปล่อยตัวชั่วคราว และให้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนด ในวันที่ 28 ส.ค.67

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนั้นประมาณ 15 นาทีต่อมา นายยศวริศ เดินทางลงมาแจ้งกับสื่อว่า พนักงานอัยการเลื่อนนัดเป็น 28 ส.ค.นี้ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนนายศรีสุวรรณ เดินทางลงมาทีหลังด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ก่อนจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับพร้อมภรรยา

สำหรับคดีนี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายยศวริศ นายศรีสุวรรณ กับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนเรื่องทุจริต จนนำไปสู่การ จับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมด โดยนายยศวริศกับพวก ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด คนละ 6 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวน กองปราบปราม นำสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาทุกคนได้รับการปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนความเห็นมาส่งยังพนักงานอัยการ ซึ่งพอรับสำนวนไว้ อัยการก็อนุญาตให้ประกันตัวต่อ เเต่การปล่อยชั่วคราว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 113 ระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันจะต้องไม่เกิน 6 เดือนนับตั้งเเต่วันถูกจับ

ซึ่งกฎหมายบอกว่าถ้าเกิน 6 เดือน ซึ่งจะครบวันที่ 26 ก.ค.นี้ อัยการยังไม่มีคำสั่ง หรือสั่งไม่การจะปล่อยชั่วคราวต่อไป จะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีอัยการ สำนักงานปราบปรามการทุจริตฯ หรือไม่เช่นนั้นจะต้องนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 87 ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจอัยการว่าจะใช้วิธีใด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน