เปิดปมแค้น หม่อมหลวง ยิงเพื่อนบ้านดับ จบชีวิตตาม เมียเผยผัว ยกมือไหว้ขอชีวิตแล้ว ยังไม่ยอม ยิงเสร็จยืนเฝ้าไม่ให้ใครเข้าใกล้ คาดแค้นถูกโพสต์ด่าบนเฟซ

กรณีหนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นหม่อมหลวง เมาแล้วทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จนมีเหตุยิงกันขึ้น ผู้เสียชีวิตคือ นายอุทัย อายุ 46 ปี ถูกยิงเข้าดวงตาข้างขวาทะลุออกหลัง 1 นัด ห่างออกไปราว 15 เมตร พบศพชายอ้างเป็นหม่อมหลวงวันชัย อายุ 59 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน มีแผลถูกยิงขมับขวา 1 นัด ใกล้ตัวพบปืนสั้นลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา พื้นที่บ้านกลาง ม.8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ลูกชายของผู้ตายทั้ง 3 คน ร่วมกับชาวบ้าน ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณจุดเกิดเหตุ นำทรายมากลบรอยเลือดและล้างทำความสะอาดพร้อมใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาคราบเลือด ลดกลิ่นคาวคละคลุ้ง

นายสิทธิพงษ์ วงศรีชา อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่นานหลายปีแล้ว เรื่องน่าจะจบแต่ไม่จบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ยอมปล่อยวาง ผู้ก่อเหตุมาอาศัยอยู่กับภรรยาตั้งแต่ปี 2545 มักเป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน อ้างเป็นหม่อมหลวง รู้จักคนใหญ่คนโต

แรกๆ ก็ช่วยมีส่วนร่วมกับชาวบ้านตลอด หลังมีความคิดไม่ถูกกับผู้นำชุมชน ทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านไปทั่ว อยากมีอภิสิทธิ์อยู่เหนือคนอื่น ข่มขู่จะยิงกับคนที่มีเรื่องด้วยประจำ วันเกิดเหตุก็มีการสังสรรค์กันที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะทะเลาะกับผู้ตาย

ยายฉันอจิต อายุ 74 ปี แม่ยายของนายอุทัย เล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุข่มขู่ชาวบ้านไว้หมด ถ้าใครยุ่งกับกู กูจะฆ่าให้หมดทุกคน เวลาเมาก็ถือปืนออกมาท้าดวลกับชาวบ้าน กับผู้นำชุมชน เวลาผ่านหน้าบ้านก็จะด่า แม้แต่ผู้หญิงมันก็ไม่เว้น

“หลังเกิดเหตุยิงลูกเขย ก็เดินวนรอบไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมขู่ใครเข้ามามึงตาย ลูกเขยยกมือไหว้ขอโทษ ขอชีวิต ผมขอโทษ ก็ไม่ฟัง ยังยิง หลานชาย 3 คนยังเรียนอยู่ ใครจะมาเลี้ยง ยอมยกมือขอชีวิตแล้ว ยังต้องฆ่ากันอีก” ยายฉันอจิต กล่าว

นางสวนสน อายุ 46 ปี ภรรยานายอุทัย กล่าวว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุ เป็นคนชอบดื่มสุรา เสียงดังในหมู่บ้านเป็นประจำ ใครก็ไม่กล้าตักเตือน ยิ่งเฉพาะเวลามีตำรวจมานั่งด้วย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อหลายปีที่ผ่านมาตนและสามี ทนเห็นการกระทำของคนที่อ้างว่าเป็นหม่อมหลวงไม่ไหว จึงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กต่อว่า ในเมื่อตัวเองเป็นถึงหม่อมหลวงแล้ว จะกินเหล้าเมายา ก็อย่าให้รบกวนชาวบ้านมากนัก

ใครก็กินเหล้ากันได้ แต่ว่ากินแล้วให้มีมารยาทหน่อย อย่าเสียงดังรบกวนชาวบ้านมากนัก เมื่อหม่อมหลวงและแฟนเห็น ไม่พอใจ ต่อว่าในเฟซเข้ามาเช่นกัน ตนจึงลบโพสต์ดังกล่าวออกไป เวลาที่พวกตนเดินผ่านหรือขับรถผ่านบริเวณสี่แยก บ้านผู้ก่อเหตุที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ก็จะถูกต่อว่าหรือตะโกนด่าหยาบคายตลอด แต่ก็อดทน ไม่แยแสมาตลอด

“กระทั่งก่อนเกิดเหตุสามี ซึ่งก็เดินผ่านหน้าบ้านแกอีกครั้ง จึงเกิดมีปากเสียงท้าตีท้าต่อยกัน ซึ่งหม่อมหลวงก็สู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปเอาปืนพกสั้นออกมา จังหวะนั้นสามีกำลังจะเดินกลับมาใกล้จะถึงบ้านแล้ว ถูกหม่อมหลวงวิ่งเอาปืนไปข่มขู่ จะฆ่าให้ตาย จนสามีก็ยกมือไหว้ ยอมแล้วขอโทษ ขอให้ไว้ชีวิต แต่หม่อมหลวงหัวร้อน ยิงเข้าเบ้าตาสามี จนล้มลงกับพื้น” นางสวนสน กล่าว

นางสวนสน กล่าวต่อว่า จากนั้นตนก็ยังยืนเฝ้าสามีที่นอนหายใจรวยริน คุมเชิงอยู่ไม่ห่าง ก็พยายามตามหาตัวเพื่อจะยิงทิ้งเหมือนกัน แต่ตัวเองก็ขับรถหนีไปก่อน ตั้งแต่มีเรื่องทะเลาะกัน และกลับมาเห็นตอนที่สามีถูกยิงแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุห้ามใครเข้ามาใกล้ หรือมาช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะยิงคนที่เข้ามาให้ตายตามไป โดยตนยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทนกับครอบครัวนี้มานาน ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วย

นายดำรงค์ อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ก็เลยออกมาดู โดยลุงอีกคนก็วิ่งเข้าไปห้ามและแยกออกจากกัน ซึ่งก็แยกย้ายกันแล้ว นายอุทัย ผู้ตายกำลังเดินกลับมาบ้าน หม่อมหลวงผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปเอาปืนมายิงนายอุทัย ยายที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ตายยกมือขอโทษว่า ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟังยิงเข้าเบ้าตาเลย

ตัวเองก็รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พอมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะผู้ก่อเหตุถือปืนลูกซองอยู่ ไม่ให้ไปยุ่งกับศพเลย ส่วนปืน .38 ก็เหน็บอยู่เอวตลอด จากนั้นก็มีตำรวจมาเกลี้ยกล่อม ช่วงนั้นตำรวจจาก สภ.เมืองบึงกาฬ มาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยกปืนยิงขมับตัวเองทันที

ด้าน ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ศพบุคคลทั้ง 2 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานชันสูตรแล้ว จะเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน ต้องรอคิวและพรุ่งนี้ถึงจะส่งไปผ่าพิสูจน์และหัวกระสุนออก ที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น

ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุหรือแรงจูงใจที่หม่อมหลวงวันชัย ก่อเหตุสลดในครั้งนี้

ที่มา มติชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน