เร่งคลี่คดีเพื่อนสนิท ฆ่ายกครัว 3 ศพ ได้ข้อมูลสำคัญจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น จ่อออกหมายจับ เผยภาพวงจรปิด เปิดปมลงมือเหี้ยม สลดศพหญิงกำลังท้อง 8 เดือน

จากกรณี ตำรวจ สภ.ห้วยยาง รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ นางคินไวไล อายุ 38 ปี ตั้งครรภ์ 8 เดือน สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลโดนตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและศีรษะ เสียชีวิตในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ม.4 อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์

ใกล้กันพบ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ปี สภาพศพถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะ คาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน จากนั้นพบศพ นายซอ วิน อู อายุ 40 ปี สามีของนางคินไวไล ถูกคนร้ายฆ่าฟันคอ ขณะไปรับจ้างตัดต้นยางพาราที่ ม.10 บ้านหัวเขา ต.ห้วยยาง ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา และเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เร่งคลี่คดีเพื่อนสนิท ฆ่ายกครัว 3 ศพ ได้ข้อมูลสำคัญจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น จ่อออกหมายจับ เผยภาพวงจรปิด เปิดปมลงมือเหี้ยม สลดศพหญิงกำลังท้อง 8 เดือน

เร่งคลี่คดีเพื่อนสนิท ฆ่ายกครัว 3 ศพ ได้ข้อมูลสำคัญจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่น จ่อออกหมายจับ เผยภาพวงจรปิด เปิดปมลงมือเหี้ยม สลดศพหญิงกำลังท้อง 8 เดือน

ล่าสุดวันที่ 1 ก.ย.2567 พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระพัฒน์ เกตุษา ผกก.สภ.ห้วยยาง พ.ต.ท.จักราวุธ กลางคาร สารวัตร(สอบสวน) เจ้าของคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ประจวบฯ ร่วมประชุมที่ สภ.ห้วยยาง เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าจับกุมคนร้าย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายลงมือฆ่าคนชาติเดียวกันอย่างโหดเหี้ยม

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้ายชาวเมียนมา 2 ราย อายุประมาณ 30 ปี เบื้องต้นยังไม่ทราบเป็นแรงงานเถื่อนผิดกฎหมายหรือไม่

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ลงมือฆ่าเชื่อว่าเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ของผู้ตายหลังจากได้รับเงินค่าจ้างตัดไม้ 40,000 บาท จากอดีตนักการเมืองท้องถิ่นนายหนึ่งซึ่งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องสงสัย 2 ราย เป็นบุคคลที่ผู้ตายที่มีบัตรทำงานถูกต้องจ้างไปช่วยทำงาน ขณะนี้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายฆ่าเพื่อนในสวนยางพาราก่อนเพื่อชิงเงิน

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวด้วยว่า จากนั้นขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ของผู้ตายไปฆ่าปิดปากภรรยาและลูกสาวของเพื่อนที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่า ต.ห้วยยาง ซึ่งการเดินทางใช้เวลาไม่นาน ขณะที่แนวทางการสืบสวนพบว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ 2 คนร้ายกับครอบครัวผู้ตายได้อาศัยอยู่ในบ้านเช่าด้วยกัน

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมคนร้ายได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ตำรวจ ตชด.ที่ 14 ค่ายพรัมงกุฎเกล้า เจ้าหน้าที่ทหารชุดจงอางศึก ให้ช่วยสกัดคนร้ายบริเวณช่องทางธรรมชาติที่คนร้ายหลบหนีกลับประเทศ

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวยอมรับว่า ช่องทางธรรมชาติมีหลายจุด ประกอบกับคนร้ายลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา และมีการพบผู้เสียชีวิตในภายหลัง ก็อาจจะทำให้การติดตามจับกุมมีปัญหาอุปสรรคพอสมควร

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวยืนยันว่า สภ.ห้วยยางจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน โดยประสานงานไปยังทางการของประเทศเมียนมาร์ให้ช่วยติดตามจับกุม

พ.ต.อ.วีระพัฒน์ กล่าวว่า พร้อมประสานกับทุกฝ่ายเพื่อเฝ้าระวังปัญหาการใช้ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ในชุมชนหลายพื้นที่ที่มีแรงงานชาวเมียนมาร์เข้ามาพักอาศัยเพื่อรับจ้างทำงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน