เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 10 พ.ย. นายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้นลงนามถวายความอาลัย ณ อาคารสำนักราชเลขาธิการ ในพระบรมมหาราชวัง
ต่อมาเวลา 16.00 น. สำนักพระราชวัง ได้ยุติการให้เข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และเปลี่ยนทางเข้าสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากประตูมณีนพรัตน์มาเป็นประตูวิเศษไชยศรี และซึ่งประชาชนจากทั่วทุกสารทิศยังคงหลั่งไหลมาสักการะพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่ได้จัดแถวให้ประชาชนที่เข้ามาสักการะพระบรมศพเดินเรียง 4 แถว อย่างเป็นระเบียบผ่านประตูพิมานไชยศรี และยืนตั้งแถวรอหน้าบริเวณพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ก่อนเข้าสักการะพระบรมศพ ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเดินออกทางประตูเทวาภิรมย์ โดยมีหน่วยกู้ภัย ลูกเสือ และเนตรนารี คอยให้บริการเข็นรถเข็นให้ผู้สูงอายุและผู้พิการที่เข้าสักการะพระบรมศพด้วย ซึ่งประชาชนที่ได้เข้าสักการะพระบรมศพต่างมีสีหน้าเศร้าโศก บางคนถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
นางจิตติมา ส่งข่าว อายุ 41 ปี ชาว จ.สตูล กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลทุ่งหว้าได้จัดรถไว้บริการประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพ ตนจึงร่วมเดินทางมาตั้งแต่เมื่อวานนี้และมาถึงสนามหลวงประมาณ 10.00 น. และเพิ่งได้เข้าสักการะพระบรมศพประมาณ 17.00 น. แม้จะเป็นเวลาถึง 7 ชั่วโมง แต่ไม่คิดว่านานและรอได้ เพราะพระองค์ทรงงานหนักและสร้างสิ่งดีๆ เพื่อคนไทยไว้มากมายและยังพระราชทานคำสอนที่ดีให้ปฏิบัติตาม ส่วนตัวประทับใจเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และน้อมนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต รวมถึงสอนลูกหลานให้เดินตามรอยพระยุคลบาท ตนภูมิใจมากที่ได้มาสักการะพระบรมศพในวันนี้ และได้อธิษฐานให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย
น.ส.ขวัญฤดี ฟองน้ำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม กล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า ตอนที่พระองค์ยังไม่สวรรคต ตนยังไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของพระองค์แบบลึกซึ้ง ทราบแต่ทางข่าวว่าพระองค์ทรงงานเพื่อประชาชน แต่พอท่านสวรรคต เราก็กลับไปอ่านทุกอย่างที่พระองค์ทรงทำมา ทำให้เราทราบว่าพระองค์ไม่เคยทิ้งประชาชนเลย พระองค์ทรงทำสิ่งที่ดีไว้ให้เรามากมาย ตอนเด็กไม่เคยเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนรักพระองค์มากมายขนาดนี้ แต่ตอนนี้เรารู้ซึ้งแล้วว่าทำไมใครๆ ถึงรักพระองค์ วันนี้ตนเดินทางมากับจังหวัดกาญจนบุรีที่จัดรถไว้บริการประชาชน โดยมาถึงสนามหลวงประมาณ 07.00 น. และได้เข้าสักการะพระบรมศพประมาณ 17.30 น. แม้จะนาน แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยและรู้สึกตื้นตันที่ได้มา ถึงตนจะไม่มีโอกาสได้ถวายงานพระองค์ แต่จะประปฏิบัติตามคำสอนพระองค์ และเดินตามรอยพระยุคลบาท
จากนั้นเวลา 17.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์มายังรถเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ช่วยด้วยใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ประทานแก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ
ท่ามกลางพสกนิกรที่มารอชื่นชมพระบารมีอย่างเนืองแน่นและเปล่งคำว่าทรงพระเจริญดังกึกก้อง โดยขณะทอดไก่ได้รับสั่งกับประชาชนว่า รับแล้วก็รับประทานเลย อย่าเก็บไว้นาน สร้างความปลื้มปิติแก่ประชาชนอย่างยิ่ง สำหรับไก่ที่นำมาทอดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในวันนี้มีจำนวน 1,200 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 500 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีคนนำไข่ไก่มาถวาย พระองค์ยังได้รับสั่งให้ทำเมนูข้าวจี่แจกประชาชนด้วย
เวลา 19.00 น. หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เป็นประธานในการบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรม พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรม รวม 8 รูป
