รวบจีนเทา ดักซุ่มกดเครื่องตัดสัญญาณรีโมทล็อกรถ ตระเวนลักทรัพย์จุดพักรถมอเตอร์เวย์ พบสาวไทยร่วมขบวนการ เผยเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พร้อมด้วย พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา บูรณาการกำลังร่วมกันจับกุมนายฉาง จินอายุ 38 ปี และ นายเซง ฮง อายุ 31 ปี 2 ผู้ต้องหาชาวจีน
ในข้อหา “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ และเป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง เครื่องรบกวนสัญญาณรีโมท 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 1 ใบ กุญแจรถยนต์ 1 ดอก และรถยนต์ 1 คัน โดยจับกุมทั้งคู่ได้ที่บริเวณจุดพักรถมอเตอร์เวย์ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีแก๊งโจรตีนแมว ออกอาละวาดตระเวนก่อเหตุงัดรถยนต์ ที่จอดอยู่บริเวณจุดพักรถมอเตอร์เวย์บางปะกง เพื่อลักทรัพย์สินภายในรถอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบัตรเครดิต จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทางตำรวจ สภ.บางปะกง เจ้าของพื้นที่ จึงประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแสคนร้ายกลุ่มนี้ เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม
ก่อนพบเบาะแสสำคัญจากภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุของแต่ละคดี พบว่ากลุ่มคนร้ายมีลักษณะคล้ายชาวจีน และมักจะลงมือก่อเหตุด้วยแผนประทุษกรรมที่คล้ายคลึงกัน โดยทำในลักษณะของขบวนการ แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน
โดยจะเริ่มจากการดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงช่องจอดรถของจุดพักรถมอเตอร์เวย์ เมื่อเห็นว่าผู้เสียหายขับรถยนต์เข้ามาจอดและกำลังจะลงจากรถ คนร้ายกลุ่มแรกก็จะใช้เครื่องรบกวนสัญญาณปล่อยคลื่นความถี่ออกมาเพื่อตัดสัญญาณรีโมทไม่ให้ล็อครถ
ส่วนคนร้ายอีกกลุ่ม ก็จะเข้าไปเบี่ยงเบนความสนใจผู้เสียหาย โดยการพูดคุยโทรศัพท์ข้างๆ เพื่อให้เหยื่อไม่ทันสังเกตว่า รถยนต์ของตนยังไม่ได้ล็อกประตู จากนั้นเมื่อเห็นว่าผู้เสียหายเดินห่างจากตัวรถเพื่อไปทำธุระแล้ว คนร้ายอีกกลุ่มที่ซุ่มรออยู่ก็จะเข้ามาลงมือเปิดประตูรถ เพื่อลักเอาทรัพย์สินภายในรถไป
เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบถึงแผนประทุษกรรมที่แน่ชัดของคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว จึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์รอบพื้นที่ ก่อนพบนายฉาง จิน และนายเซงฮง ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ปรากฎตัวบริเวณจุดที่เกิดเหตุ จึงเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด
กระทั่งเมื่อเห็นว่า ทั้ง 2 กำลังพยายามลงมืองัดรถของประชาชนจำนวน 2 คัน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับนำตัวไปตรวจค้นยังห้องพัก ก่อนพบอุปกรณ์ของกลางที่ใช้สำหรับก่อเหตุดังกล่าว จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังพบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุมีหญิงสาวชาวไทยทราบต่อมาคือน.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของเซงฮง นั่งมาในรถคันเดียวกับกลุ่มผู้ต้องหา ก่อนที่จะจอดส่งบริเวณจุดพักรถมอเตอร์เวย์แล้วขับรถออกไป เจ้าหน้าที่จึงขยายผลเข้าตรวจค้นภายในห้องพักของ น.ส.บี ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 จากการตรวจค้นภายในห้องพบเคตามีน จำนวนหนึ่ง จึงจับกุมตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกราย
สอบสวน นายฉางจิน ให้การภาคเสธ ส่วนนายเซงฮง ให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ขณะที่ในส่วนของ น.ส.บี นั้น แม้ว่าจะยังไม่พบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตระเวนลักทรัพย์ แต่เนื่องจากตรวจพบยาเสพติดภายในห้องพัก
จึงถูกแจ้งข้อหา “มีวัตถุออกฤทธิ์จ่อจิตและประสาท (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่ง สน.มักกะสัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวิธีในการได้ไปซึ่งเงินในบัตรเครดิตนั้น ทราบว่าเป็นการรูดบัตรจากเครื่องรูดบัตร ซึ่งสันนิษฐานว่ามีการผูกกับร้านค้าหรือพื้นที่ใช้งานในต่างประเทศ สอดคล้องกับข้อมูลแนวทางสืบสวนที่เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ น่าจะมีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงเงินผู้คนหลายเครือข่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลกรณีดังกล่าวต่อไป