ผกก. เผยรอผล 3 วัน ตรวจแอลกอฮอล์ ติ๊ก ชิโร่ พุ่งชนจยย. ดับ1 สาหัส1 เจ้าตัวส่งตัวแทนคุยตร. ยันยินดีชดใช้ทุกอย่าง เตรียมเงินแสนช่วยค่างานศพแล้ว
กรณี นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊กชิโร่ อายุ 63 ปี ศิลปินนักร้องชื่อดัง ขับรถตู้ชนรถจยย. ส่งผลให้ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี เสียชีวิต และนายจักรภัคร อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 บาดเจ็บสาหัส บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล5 แขวงออเงิน เขตสายไหม โดย ติ๊ก ชิโร่ ได้มอบตัวกับตำรวจและถูกนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น
วันที่ 10 ต.ค. 67 ที่ สน.คันนายาว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนผู้ประสานงานของติ๊ก ชิโร่ เดินทางมาที่ สน.คันนายาว โดยให้ข้อมูลเพียงว่า ติ๊ก ชิโร่ ได้ฝากฝังให้ดูแลเยียวยาครอบครัวของคู่กรณีให้ถึงที่สุด ยินดีชดใช้ให้ทุกอย่าง ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าดำเนินการต่าง ๆ เนื่องจาก ติ๊ก ชิโร่ กำลังตรวจร่างกายอยู่ที่รพ. จึงส่งตัวแทนมาคุยกับผู้กำกับ สน.คันนายาว แทน
ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก. สน.คันนายาว กล่าวว่า จากที่ถามร้อยเวรมาบอกว่า ติ๊ก ชิโร่ มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์จึงไม่ได้เบรก ส่วนรถจักรยานยนต์จอดอยู่ริมถนน คร่อมกับเส้นทึบของถนน ขณะนี้ได้รับรายงานว่า ติ๊ก ชิโร่ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับญาติ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ประเมินให้พักรักษาตัว แล้วแบตโทรศัพท์หมดจึงทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพิ่งจะติดต่อได้เมื่อช่วงสายของวันนี้
จากการสอบถามทราบว่า ติ๊ก ชิโร่ ไปโรงพยาบาลพญาไท นวมินตร์ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้ว และตนได้ให้ทางโรงพยาบาลเจาะเลือดไปตรวจหาค่าแอลกอฮอล์ ซึ่งใช้เวลา 3 วันกว่าจะรู้ผล แล้วตอนนี้ ติ๊ก ชิโร่ รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านก็จะเรียกมาสอบปากคำหลังจากนี้
กรณีที่ไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจาก ติ๊ก ชิโร่ มีอาการเจ็บหน้าอกไม่สามารถเป่าได้ จึงให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลและก็ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีอีกด้วย
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาตอนนี้ยังไม่สามารถแจ้งได้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด อีกทั้งจะมีการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างไร
หากผลการตรวจออกมามีแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับ ติ๊ก ชิโร่ แต่หากผลออกมาไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือด มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะประมาทร่วม แต่ทั้งนี้ต้องดูกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุประกอบด้วย
พ.ต.อ.นเรนทร์ กล่าวต่อว่า ทางญาติของ ติ๊ก ชิโร่ ได้เตรียมเงินจำนวน 100,000 บาท เป็นค่าทำศพให้กับผู้เสียชีวิตและจะดูแลค่ารักษาพยาบาลพร้อมกับส่งคนเจ็บไปยังโรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางในการรักษาต่อไป
