เคนโด้ นำผู้เสียหายคดี แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ แจ้งความอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าบางรายกินถึงขั้นเข้ารพ. เผย เปิดบิลหลักแสน ช็อกซ้ำ หลังรู้เกี่ยวกับธุรกิจนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ต.ค.2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ อดีตดีเจและผู้สื่อข่าวดัง พาผู้เสียหายที่ลงทุนซื้ออาหารเสริมของ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์
เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เนื่องจากลงทุนซื้อสินค้าอาหารเสริมในเครือข่ายแล้วได้รับสินค้าไม่ได้คุณภาพ ทำให้ขายไม่ออก
เคนโด้ นำผู้เสียหายคดี แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ แจ้งความอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าบางรายกินถึงขั้นเข้ารพ. เผย เปิดบิลหลักแสน ช็อกซ้ำ หลังรู้เกี่ยวกับธุรกิจนี้
นายเกรียงไกรมาศ กล่าวว่า ตนพาผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดกับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ หลังร่วมลงทุนขายอาหารเสริมกับธุรกิจของแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ โดยธุรกิจดังกล่าวจะให้เปิดบิลในราคาหลักแสน
นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ซึ่งมีผู้เสียหายขณะนี้อยู่หลายราย ที่สต๊อกสินค้าไปแต่สินค้ากลับไม่มีคุณภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์โกโก้ หน้ากล่องสินค้าเขียนว่าโกโก้ แต่หลังกล่องเขียนว่าเป็นกาแฟ ทำให้ลูกค้าบางรายที่แพ้กาแฟแล้วไม่ทราบว่าเป็นกาแฟ ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเห็นไลฟ์สดของธุรกิจดังกล่าวแล้วมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเห็นว่าสินค้าขายได้ ตนตัดสินใจเปิดบิลกับ น.ส.ณปภัช หรือ เจ๊นุช อายุ 39 ปี หนึ่งในแม่ทีมเครือข่ายแม่ตั๊ก ซึ่งลูกทีมของเจ๊นุช มีจำนวนกว่า 500 คน
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังจากรับมาขายพบว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพ จึงขายไม่ออก โดยตนเสียเงินไป 140,000 บาท และขายไม่ออก ปัจจุบันสินค้าทั้งหมดที่สต๊อกมาถูกเก็บไว้จนปลวกกิน
ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า อีกทั้งเพื่อนของตนที่เปิดบิลขายก็เกิดปัญหาเดียวกัน จึงนำสินค้ามาขายเทในราคาถูกลงเพื่อเอาทุนคืน แต่ทางแม่ตั๊กและเครือข่ายก็ออกมาไลฟ์สดแล้วแจ้งกับทุกคนว่าสินค้าของเพื่อนตนเป็นของปลอม ทำให้เพื่อนตนขายไม่ได้
ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนยังโดนลบออกจากกลุ่มไลน์การขายของธุรกิจนี้ด้วย ซึ่งตนก็ทราบภายหลังว่าธุรกิจนี้เน้นให้หาคนหรือลูกทีมต่อ มากกว่าขายสินค้า แต่ตนไม่มีหลักฐานที่เครือข่ายดังกล่าวพูด วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อแจ้งความเอาผิดเรื่องนี้
ปัจจุบันมีผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายหลักล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการยื่นพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อขยายผลในการดำเนินคดีต่อไป
