ดีเอสไอ เผยผลประชุมมีมติเอกฉันท์ จะแจ้งข้อหา แชร์ลูกโซ่ 18บอส ดิไอคอนกรุ๊ป ยืนยันไม่กังวลปม ทนายบอสพอล จะฟ้อง ม.157 หากตัดพยาน

วันที่ 4 พ.ย. 2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวภายหลังประชุมคณะพนักงานสืบสวนคดีพิเศษ ถึงความคืบหน้าใน คดี ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนประชุมร่วมกันแล้วมีมติเอกฉันท์ จะแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 18 ราย

คือบอส 18 คน และนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือข้อหา แชร์ลูกโซ่ และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง

โดยจะไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของทนายความผู้ต้องหาแต่ละคนไม่เท่ากัน และพิจารณาจัดตั้งศูนย์ในการประกอบกำลังคดีนี้ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยตั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอื่นมาสอบปากคำด้วย และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ในการดูงบดุล บัญชี และตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย

โดยการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่นั้น สืบเนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจสอบสวนกลางที่ได้ทำสำนวนมา และสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามีหลักฐานตามสมควรผู้ต้องหา เข้าข่ายความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน ส่วนรายละเอียดแต่ละบุคคลไม่สามารถเปิดเผยได้เป็นเรื่องในสำนวน

ส่วนกรณีบอสดาราที่ไม่ได้มีส่วนในโครงสร้างบริษัททำไมถึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ทุกคนอาจจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่ในการพิจารณา แต่ละคนมีการแบ่งหน้าที่กัน แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์เดียวกัน จึงเข้าความผิดองค์ประกอบแชร์ลูกโซ่

โดย สคบ.ยืนยันว่า การกระทำเป็นความผิดในเรื่องขายตรง เมื่อผิดแล้วการกระทำเข้าองค์ประกอบม.4 ที่ไม่สามารถประกอบการประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย และในชั้นนี้มีพยานหลักฐานตามสมควร ส่วนรายละเอียดคงต้องรอให้มีการสอบสวนรวบควใพยานหลักฐาน

ทั้งนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่จะให้การอย่างไรก็ได้ และจะแก้ข้อกล่าวหายังไงก็ได้ที่ให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ โดยทางดีเอสไอจะพยายามจะดำเนินการให้ทันในระยะเวลาการควบคุม

ส่วนผู้ต้องหาล็อต 2 ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และอยากจะแจ้งข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาชุดแรกให้เสร็จสิ้นก่อนเพื่อให้ทันระยะเวลาควบคุมตัว

ส่วนข้อหาฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้ง 18 รายและบริษัทดิไอคอน ว่ามีการจำหน่ายจ่ายโอนไปที่ไหนบ้าง ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรรม ต้องดูรายละเอียดเส้นทางการเงินก่อน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาก่อน

ส่วนกรณีที่พบเส้นทางการเงินบอสพอลโอนให้แม่นักการเมืองนั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และอาจจะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำด้วย

พ.ต.ต.ยุทธนา ยังตอบคำถาม กรณีที่ทนายความบอสพอลและดิไอคน พาพยานมาให้ปากคำ 20 คนวันนี้ ด้วยว่า เราได้แจ้งให้ทางทนายความให้ทำบัญชีมาแล้ว เพราะเป็นการแก้ข้อกล่าวหา หรือพยานฝ่ายผู้ต้องหา เมื่อทำบัญชีมาแล้วจึงจะนัดพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ

ส่วนกรณีที่ ทนายบอสพอล อ้างว่า มีพยานกว่า 2,400 คน และอาจมากถึงหลักหมื่นคนนั้น ต้องสอบปากคำทั้งหมดหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ก็คงต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหาหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีประเด็นที่เราได้ข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด

เพราะหากสอบทั้งหมดคงเกินระยะเวลาควบคุม อาจเกิดความเสียหายต่อคดีได้ แต่อำนาจจากพิจารณานั้นอยู่ที่พนักงานสอบสวน แต่ก็จะสอบและให้ความเป็นธรรม

ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ไม่กังวลกรณีที่ทนายความบอกจะฟ้อง ม.157 กรณีหากตัดพยาน โดยยืนยัน เราทำตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน