สธ.เผยผลตรวจ เด็กท้องเสีย พบติดเชื้อ ‘โนโรไวรัส’ กว่า 700 คน คาดมาจากน้ำ-อาหาร งานกีฬาสี พบ 2 โรงเรียนโยงกัน 11 พ.ย.รู้สาเหตุ-ผลตรวจตัวอย่างสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.67 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีเด็กนักเรียน 2 โรงเรียนใน จ.ระยอง มีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) รวมกว่า 500 ราย ว่า เหตุการณ์การระบาดของโรคอาหารเป็นพิษในโรงเรียน 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้กันในพื้นที่อ.แกลง จ.ระยอง พบนักเรียนป่วยภายหลังจากร่วมกิจกรรมกีฬาสี รวม 700 กว่าราย

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการทางเดินอาหารวันที่ 6-7 พ.ย. อาการที่พบมากที่สุดคือ ปวดท้อง ร้อยละ 88 รองลงมาได้แก่ อาเจียน ร้อยละ 83 ปวดศีรษะ ร้อยละ 79 ถ่ายเหลว ร้อยละ 72 และ มีไข้ ร้อยละ 68

“จากผู้ป่วย 700 กว่าราย ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย ไม่รุนแรง ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล 93 ราย อาการดีขึ้นแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ไม่มีผู้ป่วยหนักหรือเสียชีวิต ขณะนี้สถานการณ์ระบาดจำกัดอยู่เฉพาะในโรงเรียน” นพ.โสภณ กล่าว

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตัวอย่างอุจจาระ จากนักเรียน 2 ราย พบเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) 1 ตัวอย่าง และไม่พบเชื้อก่อโรค 1 ตัวอย่าง โดยทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุข (สสจ.) ระยอง ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่สอบสวนการระบาดและควบคุมโรค เก็บตัวอย่างอาหารและน้ำส่งตรวจทางห้องปฏิบัติ ส่งตรวจเชื้อแบคทีเรียและไวรัสก่อโรคทางเดินอาหาร

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างเชื้อในสิ่งแวดล้อมมาหลายตัวอย่าง เช่น น้ำ น้ำที่ละลายจากน้ำแข็ง อาหารที่เหลือจากกิจกรรมในโรงเรียน เก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสอาหาร เป็นต้น จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อได้ แต่เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากน้ำหรือน้ำแข็ง เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันใน 2 โรงเรียนดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้ เพราะเด็กอาจจะติดเชื้อมาจากภายนอกโรงเรียนแล้วเชื้อมาแพร่ในโรงเรียนก็เป็นได้

“ข้อมูลสาเหตุการระบาดและผลการตรวจตัวอย่างสิ่งแวดล้อม จะออกมาในวันที่ 11 พ.ย. โดยจะต้องตรวจหาเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียอย่างอื่นด้วย” นพ.โสภณ กล่าว

หัวหน้าผู้ตรวจราชการสธ. กล่าวว่า คำแนะนำสำหรับประชาชนในพื้นที่ อย่างสำคัญคือการทานอาหารที่ปรุงสุก ปรุงร้อนเท่านั้น ดื่มน้ำที่สะอาด และครอบครัวที่พ่อแม่ต้องทำความสะอาดหลังขับถ่ายให้เด็ก จะต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดอย่างมาก ต้องล้างมือด้วยน้ำสบู่ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ เพราะเชื้อโนโรไวรัสจะปนเปื้อนอยู่ในอุจจาระ อาเจียน

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า เชื้อโนโรไวรัส เป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันได้ เชื้อไวรัสสามารถติดต่อจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน การสัมผัสพื้นผิวหรือวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อและนำเข้าปากโดยไม่ได้ล้างมือ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน โดยมักพบการปนเปื้อนในน้ำดื่ม น้ำแข็ง และอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น ผัก ผลไม้สด เป็นต้น เชื้อโนโรไวรัส มีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมงหลังรับเชื้อ

“อาการที่พบจะคล้ายกับโรคอาหารเป็นพิษ คือ อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ ผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อชนิดนี้ส่วนใหญ่อาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ สำหรับผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงสามารถพักรักษาตัวที่บ้าน และควรดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย ส่วนผู้ป่วยที่อาการรุนแรงให้รีบเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที” นพ.โสภณ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน