เปิดข้อความ ทนายตั้ม ฝากถึงภรรยา หลังถูกคุมขังในเรือนจำ

เปิดข้อความ ทนายตั้ม ฝากถึงภรรยา หลังถูกคุมขังในเรือนจำ ด้าน ทนายสายหยุด ตอบแล้ว หลัง กองปราบบุกจับ นุ-เมีย คนสนิท ยังไม่คุยเรื่องคดี 39 ล้าน

เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 12 พ.ย.2567 นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ยืนยันว่า ตนไม่ได้หนีสื่อ แต่มีงานต่อ เพราะต้องรีบออกมาตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีข่าวว่า นายนุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ นุ และ น.ส.สาริณี (ขอสงวนนามสกุล) แฟนสาวของ นายนุวัฒน์ หรือ แซน ถูกจับ

นายสายหยุด กล่าวต่อว่า เพราะตนเข้าไปเยี่ยมทนายตั้มตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นคิวแรก และระหว่างนั้นก็มีข่าวออกมาว่า ตำรวจจับนายนุกับแซนได้ เลยจะรีบมาตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทนายตั้มด้วยหรือไม่

นายสายหยุด กล่าวอีกว่า เพราะมีข่าวลือว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาด้วย อยากตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนให้ชัดเจนจะได้ไม่ต้องเป็นข่าวลือ เพราะตนเป็นทนายความมีสิทธิถามรายละเอียดได้

ส่วนหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้เตรียมแผนดำเนินการไว้อย่างไรบ้างนั้น นายสายหยุด กล่าวว่า อย่างที่เคยบอกไว้หากพยานหลักฐานชี้ชัดไปว่า ทนายตั้มเป็นผู้ร่วมขบวนการนี้ แบบที่ปฏิเสธลำบาก ตนก็จะไม่ทำคดีนี้ให้และจะต้องไปพูดคุยกับทนายตั้มอีกครั้ง

• อ่านข่าว : จับแล้ว นุ-เมีย คนสนิททนายตั้ม อายัดรถหรู2คัน เอี่ยวคดีเจ๊อ้อย 39 ล้าน
• อ่านข่าว : ทนายสายหยุด ชิ่งสื่อ หลังเข้าเยี่ยม ทนายตั้ม ไม่กี่นาที อ้างติดธุระ

นายสายหยุด กล่าวต่อว่า และวันนี้ที่เข้าไปเยี่ยมทนายตั้ม ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทนายตั้มเรื่องคดี 39 ล้านบาท เพราะตอนที่อยู่ภายในเรือนจำ ตนยังไม่ทราบว่านุกับแซนถูกจับแล้ว แต่พอระหว่างเยี่ยมทางเลขาจึงแจ้งข้อมูลให้ทราบ ซึ่งตอนที่พูดคุยกันภายในเรือนจำกับทนายตั้ม ตนก็ยังไม่ได้ถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และไม่อยากบอกให้ทนายตั้มกังวลใจด้วย

นายสายหยุด กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จึงอยากให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาก่อน แล้วดูข้อเท็จจริงที่พนักงานสอบสวนแจ้ง ว่าเกี่ยวข้องกับทนายตั้มหรือไม่ เพราะหากพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาจะบอกพยานหลักฐานตามสมควรที่ตำรวจมี

ทนายสายหยุด กล่าวด้วยว่า และเมื่อทนายความดูพยานหลักฐานก็จะทำให้รู้ได้ว่าทนายตั้มเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวิเคราะห์เบื้องต้นได้ ว่าไม่เกี่ยวและปฏิเสธ ก็ทำคดีต่อ แต่หากพยานหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องแน่นอน ไปไม่รอด ก็คงไม่ทำคดีต่อในคดีนี้แน่นอน

นายสายหยุด กล่าวว่า ทั้งนี้ จะขอรอดูจนกว่าจะถึงขั้นตอนของการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะไม่อยากพิพากษาทนายตั้มไปก่อนเหมือนที่สังคมกำลังพิพากษา

นายสายหยุด กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้าเยี่ยมทนายตั้มในวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ เพราะเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาไม่ได้เข้ามาทนายตั้มก็กระวนกระวาย และทนายตั้มก็อยากให้ตนเข้ามาเยี่ยมอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่หากมีประเด็นก็สามารถเข้ามาได้ตลอด

นายสายหยุด กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ทนายตั้มฝากบอกภรรยา “ให้ทนอยู่ไปก่อน” ส่วนเรื่องทางคดีที่ปรึกษากันยังไม่ขอบอกในรายละเอียด และความเป็นอยู่ของทนายตั้มตอนนี้ ก็อยู่ได้สบายไม่มีอะไร