ตร.เค้นสอบ จ่าเอ็ม เครียดจัด สอบเค้นไม่ยอมเปิดปากถึงผู้มีพระคุณ คนชี้เป้า ต้องเลิกสอบตอน 4 ทุ่ม เจ้าตัวสำนึกผิด ไม่พร้อมเจอแม่ ไม่ยื่นประกัน ขอติดคุก

กรณีกัมพูชาส่งตัว นายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ มือปืนยิง นายลิม กิมยา อดีตส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา มาดำเนินคดีในไทย ชุดสืบสวนบช.น.ไปรับตัวที่ด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำขึ้น ฮ. มาลงที่กทม. นำตัวไปสอบปากคำขยายผลผู้ร่วมทีมสั่งตาย ที่สน.ชนะสงคราม โดยมีพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ร่วมกับคณะพนักงานสวนสวนสอบปากคำ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.68 ที่สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รองผกก.ป.สน.ชนะสงคราม จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามรักษาความปลอดภัยผู้ต้องหาอย่างเข้างวด ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือบุคคลภายนอกขึ้นไปยุ่มย่ามขึ้นชั้น 2 ห้องควบคุมผู้ต้องขังของโรงพัก

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลห้องควบคุมขังทราบว่า นายเอกลักษณ์มีอาการเคร่งเครียดขอบุหรี่แทบทั้งคืน ผู้ต้องหากินอาหารพอได้และนอนหลับได้บ้าง

พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายเอกลักษณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหามีท่าทีเคร่งเครียด แต่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และแจงรายละเอียดพฤติการณ์สามารถทำคำรับสารภาพประกอบวิดีโอที่เล่าในทางคดีได้ครบถ้วน

นายเอกลักษณ์ยืนยันว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ทั้งหมด แต่เมื่อสอบปากคำเชิงลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ผู้มีพระคุณหรือบุคคลผู้ชี้เป้า ผู้ต้องหาไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ประเด็นดังกล่าว ไม่ยอมตอบคำถามและต้องการสูบบุหรี่ แม้ว่าชุดคลี่คลายคดีพยายามที่จะใช้หลักจิตวิทยาพูดคุย ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในเชิงลึก

บางครั้งมีอาการสับสนมึนงงว่า ทำอะไรลงไป มีท่าทีวิตกกังวลกลัวว่า บุคคลอื่นถ้าให้การถึงนั้นเขาจะเดือดร้อน พนักงานสวนต้องประเมินอาการร่วมกับทนายความและแพทย์ ลงความเห็นว่า นายเอกลักษณ์ยังมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย และเคร่งเครียด เนื่องจากภาวะพักผ่อนน้อย มีสภาวะที่ยังไม่พร้อมให้ปากคำ ทางพนักงานสอบสวนจึงหยุดการสอบปากคำตอนเวลา 22.00 น. จากนั้นนำตัวไปควบคุมที่ห้องควบคุมผู้ต้องขัง

ที่หน้าห้องควบคุมผู้ต้องขังมีเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนเฝ้าบริเวณหน้าห้องขังตลอดทั้งคืน จัดหาผ้าห่มให้นายเอกลักษณ์ เนื่องจากกลางคืนอากาศเย็นมาก เจ้าหน้าที่คอยสังเกตผ่านกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหาไม่มีทีท่าจะทำร้ายตัวเอง สามารถนอนหลับได้

ตอนเช้าเจ้าหน้าที่นำโจ๊กให้กิน เจ้าตัวกินได้เป็นปกติ นายเอกลักษณ์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ไม่พร้อมที่จะเจอแม่และญาติ เพราะไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจร้องไห้ และเมื่อรู้ว่าแม่ตามหาถึงที่ จ.สระแก้ว นายเอกลักษณ์มีอาการเครียดอย่างมาก

ตอนค่ำเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นายเอกลักษณ์พูดคุยกับแม่ทางโทรศัพท์ นายเอกลักษณ์บอกกับแม่ว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเจอแม่ และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปพร้อมจะรับโทษ เมื่อแม่ได้คุยแล้วก็ยอมเดินทางกลับ นายเอกลักษณ์แจ้งกับทนายความด้วยว่า จะไม่ยื่นประกันตัว พร้อมที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน