วันที่ 13 เม.ย. ร.ต.อ.เฉลิมชน การะวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี รับแจ้งมีคนจมน้ำที่แม่น้ำชี บ้านกุดกะเสียน ต.เขื่องใน ชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิเขื่องใน ได้เข้าช่วยเหลือนำผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 2 คน ซึ่งอยู่ในสภาพหมดสติ เพราะจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานและได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ จึงขอให้ออกไปตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพด้วย
เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ว่า นางศิริยม จินารักษ์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านหนองตาดใหญ่ หมู่ 1 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา และ น.ส.สุดใจ พันธ์ศิริ อายุ 35 ปี ชาวบ้านกุดกะเสียน หมู่ 10 ต.เขื่องใน อ.เขื่องใน โดย น.ส.สุดใจ ที่เสียชีวิตครั้งนี้ อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือนด้วย
จากสอบถามนายชัยยันต์ จินารักษ์ อายุ 34 ปี สามีนางศิริยม ให้การว่า ตนเองและนางศิริยนมีอาชีพเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก และได้ชวนกันกลับมาเยี่ยมครอบครัวฝั่งภรรยาคือ นางศิริยน ในเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านกุดกะเสียม และสายวันนี้ ก็ได้ชวนกันมาเล่นน้ำที่ท่าน้ำของหมู่บ้าน ซึ่งมีความกว้างของลำน้ำประมาณ 150 เมตร และบางช่วงเป็นหาดทรายที่โผล่พ้นน้ำในหน้าแล้ง โดยมาด้วยกันรวม 8 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 คน และเด็ก 4 คน
ระหว่างที่เด็กและนายชัยยันต์ กำลังลงเล่นน้ำ ก็เกิดเหตุการณ์เด็กชายเอ อายุ 13 ขวบ ลูก น.ส.สุดใจ ถูกกระแสน้ำจากร่องน้ำวนพัดร่างออกห่างจากฝั่ง นายชัยยันต์เห็นเหตุการณ์ได้ว่ายเข้าไปช่วยพยุงนำร่างเด็กชายเอเข้าฝั่ง โดยมี น.ส.สุดใจ ผู้เป็นแม่ของเด็กชายเอ กระโดดตามลงไปช่วยด้วย แต่ปรากฏ น.ส.สุดใจ เกิดหมดแรงถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป และระหว่างนั้น นายชัยยันต์ที่เข้าช่วยเด็กชายเอ ก็เริ่มหมดแรง ทำให้นางศิริยนผู้เป็นเมีย ว่ายน้ำเข้าไปดึงนายชัยยันต์เข้าหาฝั่ง แต่นางศิริยนก็ถูกกระแสน้ำพัดจนร่างจมหายไปเป็นคนที่ 2
เมื่อชาวบ้านทราบเหตุได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเขื่องใน ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันงมหาร่างผู้เคราะห์ร้าย ก็พบร่างของ น.ส.สุดใจ ถูกน้ำพัดจมอยู่ห่างจากจุดเล่นน้ำราว 30 เมตร ส่วนร่างนางศิริยน จมอยู่ในร่องน้ำวนใกล้ที่เกิดเหตุ เมื่อนำทั้งคู่ขึ้นจากน้ำก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงนำร่างหมดสติส่งให้แพทย์โรงพยาบาลประจำอำเภอช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตไว้ได้ เนื่องจากทั้งคู่จมอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มอบศพให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
