บิ๊กอ้วน เข้ม สั่งสมช.แจ้ง กฟภ.ตัดไฟ ส่งเมียนมา กางระเบียบแจง มีอำนาจทำได้ เหตุ กระทบมั่นคง เหน็บ อย่าคิดแค่ขายไฟ ลั่น ไม่ต้องถึงมือครม.ฟัน ใครเกียร์ว่าง ให้ช่วยราชการ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 4 ก.พ.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงความชัดเจนในการออกคำสั่งให้ตัดไฟที่จ่ายไปยังเมียนมา ว่า เรื่องไฟฟ้าส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ขายไฟเกิดขึ้น 2 ครั้งในปี 2535 ที่มีการนำเรื่องเข้า ครม.และครั้งที่สอง 2537 ที่มีมติให้ขายไฟได้ตามแนวชาย โดยไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้า ครม. และดำเนินการในทางปฏิบัติไปตามปกติ
ดังนั้น กฟภ.มีอำนาจ โดยพ.ร.บ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2503 มาตรา 67, 42 เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2537 อนุมัติให้จ่ายไฟฟ้าไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก และต่อมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2539 ให้กฟภ.จ่ายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านบริเวณหมู่บ้านแนวใกล้ชายแดนไทย โดยไม่ต้องขออนุญาตในระดับนโยบาย แต่ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับทราบ
ส่วนการงดและระงับจ่ายไฟฟ้า หรือยกเลิกจ่ายไฟฟ้า กฟภ.สามารถทำได้เองตามสัญญาโดยไม่ต้องเสนอ ครม.อนุมัติก่อน และไม่ต้องเสนอ กพช.รับทราบ โดยสัญญาที่ กฟภ.ไปเซ็นไว้กับบริษัทอลัว กรุ๊ป พีแอนด์อี จำกัด เมียนมา ส่งไฟฟ้าไปเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน และในหนังสือกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 31ม.ค.2568 ว่ายังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไปเมียนมาฉบับอื่นอีก 4 ฉบับ รวม5 จุดการซื้อขายไฟฟ้า
นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากดูตามสัญญาที่มีอยู่จะกำหนดว่า ผู้ซื้อยินยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดและระเบียบของ กฟภ. ในการใช้ในการจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน และในอนาคต หากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือผิดเงื่อนไขข้อหนึ่งข้อใด ผู้ซื้อต้องยอมให้ กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าและบอกเลิกสัญญาได้
ชี้ให้เห็นว่ามีอำนาจที่ทำได้ ในกรณี กฟภ.ไม่สามารถจ่ายไฟได้ เช่น เกิดเหตุขาดแคลนไฟฟ้า ความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของประเทศ ตลอดจนผู้ซื้อกระทำการใดใดอันมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศ ต่อเส้นเขตแดนหรือแนวสันปันน้ำ กฟภ.สามารถงดจ่ายไฟทั้งหมดหรือบางส่วนได้ โดยผู้ซื้อไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย และระเบียบ กฟภ.ว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ 2562 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในสัญญา มีข้อหนึ่งระบุว่า กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าได้หากเห็นว่าการไฟฟ้านั้นกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องพิจารณาขณะนี้มีความจำเป็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศหรือยัง หากดูจากข้อมูลพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งผลกระทบกับประชาชนอยู่ขณะนี้ โดยข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ระหว่างเดือนมี.ค.2565-มิ.ย.2567 คนไทยตกเป็นเหยื่อคอลเซ็นเตอร์กว่า 575,500 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 65,715 ล้านบาท เฉลี่ยความเสียหายวันละกว่า 80 ล้านบาท
เรื่องนี้จึงถือเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศในหลายมิติ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ หากพบว่าผู้ใช้ไฟฟ้าจาก กฟภ.ไปจำหน่ายต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติอื่น กฟภ.สามารถใช้สิทธิ์ตามสัญญา จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้น้อยลงหรืองดจ่ายได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ ไม่สบายใจที่มีการโยนกันไปมาว่าไม่สั่งมาแล้วทำไม่ได้ อีกฝ่ายบอกยังไม่รู้ ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งที่มีข้อมูลสืบทราบได้ว่ามีปัญหา ให้สั่ง สมช.เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคุย และยืนยันว่ากระทบความมั่นคงจริง ที่จริงไม่ต้องให้ สมช.ชี้
ตนรับรายงานว่ามีการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นกว่าปกติ รวมถึงมีปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ควรเข้าไปดำเนินการ ไม่ใช่สนใจแต่การขายไฟฟ้าอย่างเดียว หากจะค่อยๆตัดไฟจะช้าเกินไป เพราะปัญหารุนแรง ตนจะสั่งการ สมช.ให้แจ้ง กฟภ.และหน่วยที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตัดไฟทันที ไม่ใช่รอและโยกไปโยกมา
“ผู้บังคับหน่วยส่วนใด หรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน ให้ปฏิบัติโดยทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าไม่ปฏิบัติตามให้เกิดผลโดยทันที และเรื่องนี้ไม่ต้องเข้า ครม. ถ้าล่าช้าและไม่จัดการภายในไม่กี่วันนี้ ผมจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ไปพิจารณาก็แล้วกันว่าควรจะจัดการแค่ไหน“ นายภูมิธรรมกล่าวเสียงเข้ม
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่าสั่งการให้ตัด ไม่ต้องมาถามว่าเป็นเพราะอะไร กฟภ.ถึงไม่ตัด หรือมัวแต่สนใจขายไฟอย่างเดียว มีเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งเสียหายมากกว่าไฟที่ขายได้ ส่วนจะมีนอกมีในหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ให้ไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุม ครม.จะต้องคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนบอกผ่านสื่อแล้ว และจะสั่งการผ่าน สมช.อีกครั้ง เมื่อถามว่าหากยังเกียร์ว่างนอกจากจะยืมตัวมาช่วยราชการ ยังมีมาตรการอื่นๆ อีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืมตัวมาช่วยราชการถือว่าหนักแล้ว ส่วนแนวทางอื่นจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวค่อยดูกันตามฐานความผิด
เมื่อถามว่าการตัดไฟจะตัดเฉพาะเมืองชเวโก๊กโกและพีพีพาร์กหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้ไปดูตามความเป็นจริง แต่ตนสั่งการว่าเรื่องนี้มีความชัดเจนแล้วและมีปัญหา ซึ่งรับทราบแล้วจะต้องดำเนินการตามมาตรการให้เห็นชัดเจน ว่าพยายามทำอะไรที่จะเป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มาโยกโย้ ต้องจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าเมืองเมียวดีซื้อไฟจากเราถึง 90% ถ้าตัดจะดับทั้งหมด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาต้องควบคุมคนของเขา เพราะอยู่ในพื้นที่ของเขาเอง หากปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้นสร้างปัญหาให้กับประเทศเขาก็ต้องรับผิดชอบด้วย และต้องการจัดการทันทีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จบ หากไม่จบก็ต้องรับผล เราไม่ใช่แม่พระใจดี ส่งขายไฟให้และทำอะไรแบบนั้นแล้วเรายังนิ่งเฉยอยู่หรือ
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกำหนดการการลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก ของหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งได้ส่งข้อมูลเรื่องไฟฟ้าในเมียนมาให้กับ กฟภ.ด้วย ว่าหากสามารถประสานกับเมียนมาได้ ตนจะลงไปดูพื้นที่จริง