เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่บก.ปคม. ผู้เสียหาย จำนวนกว่า 40 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. แจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.พิศมัย ฉ่ำผักแว่น หรือ ยุ้ย และน.ส.จินตนา วงศ์วิชา ที่หลอกลวงไปทำงานนวดสปาที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะมัลดีฟส์ ประเทศศรีลังกา

นางฐิตาภา สันติรักษ์โยธิน อายุ 57 ปี ชาวนครราชสีมา พร้อมผู้เสียหาย 39 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือปคม. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มผู้ที่หลอกลวง ชักชวนผู้เสียหายสมัครงานทำงานนวดและสปาที่ต่างประเทศ จนมีผู้เสียหายกว่า 400 คนหลงเชื่อโอนเงินไปให้กลุ่มผู้ต้องหารวมความเสียหายหลายล้านบาท

นางฐิตาภา หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมามี.ส.พิศมัยเข้าไปโพสต์ข้อความในกลุ่มผู้จัดหางานไปยังต่างประเทศ ชักชวนให้ไปทำงานนวดสปา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเกาะมัลดีฟส์ ประเทศศรีลังกา โดยอ้างว่าจะมีสวัสดิการทั้ง อาหาร ห้องพัก และเงินประกันรายได้ และต้องเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินเพียงรายละ 2-3 หมื่นบาทเท่านั้น ก็สามารถเดินทางได้

นอกจากนี้ น.ส.พิศมัยพยายามสร้างความน่าเชื่อถือในการนำรายละเอียดการใช้ชีวิต และจูงใจเรื่องค่าตอบแทนมากล่าวอ้าง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เสียหาย จนทำให้หลงเชื่อ และโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.จินตนา วงศ์วิชา ตามที่นางพิศมัยระบุ แต่ต่อมาเกิดข้อพิรุธเนื่องจากเมื่อมีคนเข้ามาถวงถามรายละเอียดในกลุ่มไลน์ที่ใช้สนทนากัน มักจะมีบุคคลในกลุ่มเข้าไปต่อว่าและบล็อกผู้ที่ทวงถามทันที อีกทั้งก่อนถึงวันเดินทาง 3 วัน ก็ยังไม่ได้รับตั๋วเดินทางตามที่กล่าวอ้างจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี และนำนางพิศมัยที่อ้างตัวว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเข้าแจ้งความด้วย

ด้าน นางณิชชา เวียงนนท์อายุ 50 ปี ชาวอุดรธานี กล่าวว่า ตนเคยทำงานแพทย์แผนไทยที่รพ.แห่งหนึ่ง เพิ่งขาออกไปทำงานนวดสปาที่ประเทศรัสเซียเมื่อ 2 ปีก่อน ได้เงินค่านวดคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.4 หมื่นบาท เห็นเขาเปิดรับสมัครในกลุ่มไลน์เพื่อนนวดสปาไปทำงานที่มัลดีฟส์ ได้เดือนละ 6 หมื่นกว่า มีประกันรายได้ด้วยว่าถ้าวันไหนไม่มีงานก็จะมีเงินพิเศษให้ จึงตัดสินใจชวนลูกสาวไปทำงานนวดสปากับเขาโอนเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินทาง 2 คน รวม 4 หมื่นบาท พอถึงวันเดินทางไปนับตั๋วเครื่องบินกลับไม่ได้ จึงคิดว่าโดนถูกหลอกแน่นอน ก่อนนัดกันมาแจ้งความ ที่ปคม. เมื่อวันที่ 11 เม.ย. วันนี้มาติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ว่าไปถึงไหนแล้ว

พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายทยอยแจ้งความตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้รวมแล้ว 49 ราย และจากการสอบปากคำพบว่าน่าจะมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ราย สำหรับคดีนี้เบื้องต้นเข้าข่ายเป็นความผิด ตามพรบ.แรงงาน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้ประสานงานให้ตัวแทนกรมการจัดหางานเข้าร่วมสอบปากคำรวมทั้งได้ประสาน ปปง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน