เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 เม.ย. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 18/73 หมู่บ้านเดอะซิตี้ รามอินทรา ถ.กาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ตรีชฎา ใจสบาย อายุ 35 ปี เจ้าของบริษัทใจสบาย จำกัด หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 768/2561 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2561 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นตัวการใหญ่อีกคนของบริษัท เมจิสกิน จำกัด ก่อนนำหมายค้นจากศาลอาญาเลขที่ 106/2561 ลงวันที่ 20 เม.ย. 2561 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบน.ส.ตรีชฎา หรือส้ม พร้อมนายศรีวิกรม์ หรือโอ ใจสบาย อายุ 32 ปี น้องชาย และทนายความ โดยเจ้าหน้าที่ให้นายศรีวิกรม์เป็นผู้นำค้น จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าและลูกค้า ภายในรถเก๋ง ยี่ห้อเมอซิเดสเบนซ์ รุ่นซีแอลเอ 200 สีดำ ทะเบียน กล1916 อุบลราชธานี และภายในห้องพักชั้น 2 พบเงินสดอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางสีชมพู 16 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบเงินสดเพิ่มเติมภายในห้องอื่นๆ อีก 3.1 ล้านบาท แหวนทองคำ 53 วง และทรัพย์สินเครื่องประดับอื่นๆ เช่น นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจค้นได้ 21 ล้านบาท ในอาคารกระจกด้านข้างบ้าน ซึ่งใช้สำหรับเก็บสินค้าไว้อีก 100 ลัง
จากการสอบสวนทราบว่า เงินสด 16 ล้านบาท เป็นเงินที่เตรียมไว้นำไปจ่ายให้กับผู้ผลิตสินค้า ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการสั่งซื้อและจำหน่ายสินค้า ส่วนที่พบอีกกว่า 3 ล้านบาท และแหวนทอง เป็นเงินที่ใช้ในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า เพื่อตอบแทนผู้ที่รีวิวสินค้า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดไว้ให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายจำนวนมาก เดินทางเข้ามาร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัท เมจิสกิน จำกัด ที่ผลิตสินค้าประเภทสกินแคร์ อาหารเสริม ยี่ห้อดังหลายประเภท ว่าใช้เครื่องหมายการค้าอาหารและยา (อย.) ปลอม ติดเครื่องหมายการค้าผิดประเภท ผลิตอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพ และแหล่งผลิต หรือโรงงานที่ไม่ได้จดทะเบียน จนเป็นที่มาของการเข้าตรวจสอบในหลายจุด ทั้งแหล่งผลิต และแหล่งเก็บผลิตภัณฑ์
สำหรับผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ซึ่งทางตร.จะอำนวยความสะดวกให้ เพราะคดีนี้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งความปลอดภัยของผู้บริโภค ที่จะต้องเสี่ยงเสียโฉม หากใช้สินค้าไม่ผ่านการตรวจของสำนักงานอาหารและยา (อย.) โดยจะจัดพนักงานสอบสวนส่วนกลาง ที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าว มีผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด 8 ราย ประกอบด้วย 1.นางวรรณภา พวงสน หัวหน้าทีม 2.นายกร พวงสน ทำหน้าที่ดูแลการเงิน 3.นายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือหญิงย้วย 4.นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ ทำหน้าที่จัดโรงเรียนสอนรวย 5.นายพิร์นิธิ ติรณวัตถุภรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ว่ากลยุทธ์ 6.น.ส.ธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ์ 7.น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย และ 8.น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ ทำหน้าที่ผู้สั่งผลิตและเป็นเจ้าของยี่ห้อสินค้า
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 05.30 น. วันเดียวกัน ที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.อ.วิระชัย ยังได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย บุกทลายแก๊งเครื่องสำอาง อาหารเสริม ในเครือข่าย บริษัท เมจิสกิน จำกัด ทั้งหมด 13 จุดทั่วประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด 8 รายดังกล่าวอีกด้วย สำหรับการตรวจค้นวันนี้เพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง และทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง.ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าบุคคลใดเป็นผู้ถือทรัพย์สินแทนก็จะดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินเช่นกัน นอกจากนี้ ยังตรวจบัญชีพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
